ฉลองชัย!! ศาลสั่งถอนประกัน “จตุพร-นิสิต” ปราศรัยหมิ่นเบื้องสูง โดยให้เหตุผลการปราศัยของจำเลยบางตอนอาจจะส่อไปให้เกิดความวุ่นวายต่อบ้านเมือง ซึ่งผิดเงื่อนไขประกันที่ศาลกำหนดไว้ในการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีก่อการร้าย จึงให้ถอนประกัน ต้องไปนอนในเรือนจำ ส่วนจำเลยอื่นให้ยก
วันที่12 พ.ค. เวลา 10.00 น.ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่ง ที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาเปลี่ยนแปลง เงื่อนไข การอนุญาตปล่อยชั่วคราว นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ,นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ , น.พ. เหวง โตจิราการ ,นายก่อแก้ว พิกุลทอง ,นายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา ,นาย ยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก , นาย นิสิต สินธุไพร และนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท แกนนำ นปช. จำเลยที่ 1-8 และ 10 คดีร่วมกันก่อการร้าย จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ) รวบรวมพยานหลักฐานพบว่า 9 แกนนำ นปช. มีพฤติการณ์กระทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ 112 ในการจัดชุมนุมของ นปช. เมื่อวันที่ 10 เม.ย.54 ที่ครบรอบ 1 ปีการรำลึกถึงสมาชิก นปช.ที่เสียชีวิต จากการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ราชดำเนิน แล้วพบว่าพวกจำเลยฝ่าฝืนเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาล ซึ่งได้ขึ้นเวทีปราศรัยและได้กล่าวพาดพิงหมิ่นสถาบัน
โดยศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า กรณีของนายวีระ นายณัฐวุฒิ น.พ.เหวง นายก่อแก้ว นายขวัญชัย นายยศวริศ และนายวิภูแถลง จำเลยที่ 1, 3-7, 10 พยานหลักฐานตามทางไต่สวนยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เห็นได้ว่า จำเลยดังกล่าวประพฤติผิดเงื่อนไขตามคำสั่งของศาล หรือมีพฤติการณ์การกระทำอื่นใดที่จะเป็นเหตุให้ศาลเพิกถอนสัญญาประกัน
ส่วน นายจตุพร จำเลยที่ 2 และนายนิสิต จำเลยที่ 8 ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโดยละเอียดแล้ว เห็นว่า พฤติการณ์การกระทำตลอดจนคำพูดของจำเลยที่ 2 และ ที่ 8 มีลักษณะส่อไปในทางที่อาจจะทำให้ประชาชนทั่วไปสับสนในข้อเท็จจริงจนถึงขั้น ก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ซึ่งนับว่าเป็นการก่อเหตุอันตรายและเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักรที่เป็นเหตุที่ศาลจะเพิกถอนสัญญาประกันจึงมีคำสั่งเพิกถอนสัญญา ประกันเฉพาะนายจตุพร จำเลยที่ 2 และนายนิสิต จำเลยที่ 8
ภายหลังศาลมีคำสั่งแล้ว เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัวนายจตุพร และนายนิสิต เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครทันทีท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ นายจตุพร ยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม และกล่าวก่อนถูกนำตัวส่งเข้าเรือนจำว่า ไม่รู้สึกกังวลอะไร พร้อมน้อมรับคำสั่งและใช้ชีวิตตามปกติอย่างไร้อิสรภาพในเรือนจำ โดยหลังจากนี้จะให้ทีมทนายความยื่นประกันตัวใหม่ และอุทธรณ์คำสั่งต่อไป ส่วนการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงก็ยังดำเนินการต่อเพราะมีแกนนำอื่นและมวลชนอยู่ ในส่วนของพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้พูดคุยอะไร หลังจากนี้พรรคคงต้องหารือว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร แต่ส่วนตัวยังมีชื่อเป็นผู้สมัครของพรรคอยู่เพราะตนไม่ได้ต้องคำพิพากษา
ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า การชุมนุมวันที่ 19 พ.ค.นี้ ยังมีต่อไป โดยแกนนำที่เหลือจะร่วมเคลื่อนไหว และไม่จำเป็นต้องปรับรูปแบบการปราศรัย เพราะทุกคนไม่มีพฤติการณ์ที่จะทำการฝ่าฝืนเงื่อนไขประกันตัว
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายจตุพร กล่าวว่า เตรียมรวบรวมเอกสาร เพื่อยื่นคำร้องขอประกันตัวนายจตุพร และนายนิสิต ใหม่ โดยจะใช้หลักทรัพย์เดิม 1 ล้านบาทขณะเดียวกันจะหาหลักทรัพย์เพิ่มเติมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศโดยรอบศาล ตลอดแนว ถ.รัชดาภิเษก นั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 6 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโดกองบังคับการปราบปรามจำนวน 1 กองร้อยมาดูแลความเรียบร้อยและการจราจร โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งเดินทางมาให้กำลังใจแกนนำ นปช. ด้วย และเมื่อรถของราชทัณฑ์จะนำตัวนายจตุพร และนายนิสิต ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ มีกลุ่มเสื้อแดงบางส่วนมายืนรวมกลุ่มบนถนนไว้ จนทำให้รถเรือนจำเปลี่ยนเส้นทาง วิ่งย้อนศรไปออกยังถนนลาดพร้าวแทน
ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พ.ต.อ.นิวัฒน์ ชูภู่ รองผบก.น. 2 พ.ต.อ.เชิดชาย สัตตบุศย์ ผกก.สน.ประชาชื่น นำกำลังตำรวจปราบปรามจลาจลของบก.น.2 จำนวน 1 กองร้อย มากระจายกำลังดูแลความปลอดภัยตั้งแต่บริเวณหน้าทางเข้าไปจนถึงหน้าประตูเรือนจำ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มคนเสื้อแดงที่ทราบข่าว ได้ทยอยกันมาบริเวณหน้าเรือนจำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยหนึ่งในนั้นมีนายวิภูแถลง พัฒนภูไท รวมอยู่ด้วย
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1312 ครั้ง