รายงานข่าวแจ้งว่า แม้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา จะผลักดันนายสมนึก ลงสมัครในเขตดังกล่าว เพราะเมื่อดูจากการเลือกตั้งในปี 50 คะแนนในพื้นที่ นายสมนึก แม้อยู่พรรคมัชฌิมาธิปไตย เดิมคะแนนสูงกว่านายรุ่งโรจน์ ที่อยู่พรรคพลังประชาชน แต่นายเนวิน ยืนยันว่า จะส่งนายรุ่งโรจน์ลงสมัคร พร้อมได้เสนอให้นายสมนึกไปรับตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีแทนหากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล แต่นายสมนึก ทีมงานไม่เห็นด้วย เพราะเชื่อว่า คะแนนนิยมของตัวเองดีกว่านายรุ่งโรจน์ จึงขอไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นแทน เพราะมั่นใจจะชนะเลือกตั้ง เพราะนายรุ่งโรจน์ไม่เคยทำพื้นที่นี้
นายพินิจ สิทธิโห อีต ส.ส.จังหวัดเลย ได้ลาออกจากพรรคภูมิใจไทยเช่นเดียวกัน เพื่อไปสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากการตัดสินใจของพรรคไม่ชัดเจนว่า จะให้ลงสมัคร เขตไหน
สำหรับบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคภูมิใจไทยได้ตั้งเป้าไว้ 15 ที่นั่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ชิดนายเนวิน ชิดชอบ และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย โดย 1. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล (นายทุนพรรค) 2. นายชัย ชิดชอบ 3. นายเรืองศักดิ์ งามสมภาค (อดีตอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และรองเลขาธิการพรรค กลุ่มมัชฌิมา) 4. นางนาที รัชกิจประการ (เลขานุการประธานรัฐสภากลุ่มนายทุนภาคใต้) 5. นายศุภชัย ใจสมุทร (กลุ่มเพื่อนเนวิน) 6 น.ส.ณัฐธิดา เทพสุทิน (ลูกสาวนายสมศักดิ์ กลุ่มมัชฌิมา ) 7. นายเพิ่มพูน ทองศรี (อดีตส.ส.บุรีรมย์ กลุ่มนายเนวิน) 8. นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล (คนใกล้ชิดนายอนุทิน ชาญวีรกูล และนายทุนพรรค ) 9. น.ส.ศรีวรรณ เทียมประเสริฐ (นายปองพล อดิเรกสาร ) 10. นายพิพัฒน์ พรหมวราภรณ์ (คนสนิทนายสมศักดิ์)
11. นายประเวช รัตนเพียร(น้องชายนายประวิช รัตนเพียร อดีตรมว.วิทยาศาสตร์ฯ ใกล้ชิดนายเนวิน และอนุทิน) 12. นายสุรชัย สุทธิธรรม ( คนของนายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง ประธานกรรมการบริหารบริษัทอีสวอเตอร์ จำกัด (มหาชน) นายทุน คนใกล้ชิดนายเนวิน 13. นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ (อดีตรมช.คมนาคม ส.ส.ขอนแก่น กลุ่มเพื่อนเนวิน) 14. นายทวีวัฒน์ ฤทธิ์ฤาชัย (อดีตส.ส.สกลนคร กลุ่มเพื่อนเนวิน) 15. นางศุภธินันท์ ไถวสินธิ์ ( “ ป้าสะอิ้ง ” ประธานเครือข่ายเกษตรกรทางเลือก ซึ่งเป็นกลุ่มรากหญ้าของนายเนวิน) นอกจากนี้ 16 . นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร (อดีตรมช.คมนาคม กลุ่มเพื่อนเนวิน)
ชผด.โคราชยังวุ่น
ด้านนพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ฐานะหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพน.) กล่าวว่าสำหรับการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พื้นที่จังหวัดนครราชสีมาถือว่าเป็นพื้นที่เป้าหมาย ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่าต้องจัดการปราศรัยใหญ่ในพื้นที่สำคัญด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่าการแบ่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง พื้นที่จังหวัดนครราชสีมาทั้ง 15 เขตเลือกตั้งของ ชพน. นั้นได้แบ่งโควต้าระหว่างกลุ่มนายสุวัจน์ ลิปตพัลล แกนนำชพน. และ กลุ่มของ ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ที่เข้ามาทำหน้าที่คุมการเลือกตั้งแทน ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ที่เพิ่งเสียชีวิต เบื้องต้นในโควต้าของ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ มีทั้งหมด 6 เขต ซึ่งมีที่ชัดเจนแล้วคือ นางสาวสุธาสินี ศิริโภคานนท์ ลงเขต 4 , นายพีรพล สุวรรณฉวี ลูกชายคนกลางของครอบครัวสุวรรณฉวี จะลงเลือกตั้งในเขต 7, นายอนุวัฒน์ วิเศษจินดาวัฒน์ อดีตส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อแผ่นดิน ลงในเขต 8 , นายพลพีร์ สุวรรณฉวี อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อแผ่นดิน จะลงในเขตเลือกตั้งที่ 9 , นายบุญเลิศ ครุฑขุนทด อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย จะลงในเขต 15 แทนนายรชตะ ด่านกุล ที่ล่าสุดได้ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 10 ที่ก่อนหน้านี้เคยเสนอชื่อให้นายซ้าย ผลกระโทก อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา อำเภอโชคชัย ให้ลงรับเลือกตั้ง ล่าสุดนายซ้าย ได้ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย ทำให้พื้นที่ดังกล่าวจำเป็นต้องหาตัวผู้สมัครใหม่ จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่จะลงเลือกตั้งได้ ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวล่าสุดมีนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นอดีต ส.ส.คนล่าสุด
ส่วนของโควต้ากลุ่มนายสุวัจน์ ที่ยืนยันแล้ว คือ นพ.วรรณรัตน์ จะลงเขต 1, นายประเสริฐ บุญชัยสุข ลงเขต 3,นางยม สอนนา หรือ สุนารี ราชสีมา ลงเขต 6
เพื่อไทยวุ่นถึงตี 5 กว่าโผจะลงตัว
สำหรับพรรคเพื่อไทยรายชื่อผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยทั้ง 125 คนนั้น จัดทำเสร็จสิ้นเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่วานนี้(19 พ.ค.) เนื่องจากนายทุนของพรรคได้ท้วงติงว่าไม่มีรายชื่อตัวแทนของกลุ่มนายทุนเหล่านั้นอยู่ในรายชื่อผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อในลำดับที่น่าจะได้เป็นส.ส. แต่ถูกจัดให้อยู่ในลำดับตั้งแต่ 80 ลงมา รวมทั้งไม่พอใจที่แกนนำนปช.และแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนต่างอยู่ในลำดับต้นๆ ที่คาดว่าน่าจะได้เป็นส.ส.อีกด้วย ดังนั้นแกนนำพรรคเพื่อไทยจึงได้โทรศัพท์ไปหาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้มีการจัดลำดับรายชื่อผู้สมัครใหม่อีกครั้ง
รายงานข่าวระบุว่า ในส่วนของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตส.ส.สัดส่วนนั้น แม้ว่าจะถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 6 แต่นายมิ่งขวัญก็ยังรู้สึกไม่พอใจและต้องการที่จะอยู่ในลำดับที่สูงกว่านั้น จึงไม่ยอมเซ็นใบลาออกจากการเป็นส.ส.ไว้ตามที่พรรคกำหนดเป็นกติกา อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว นายบัณฑูรย์ สุภัควณิช อดีตผู้อำนวยการสำนักงานงบประมาณที่ไม่มีรายชื่อในครั้งแรกก็ถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 13 ขณะที่นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ อดีตรมช.พาณิชย์ จากเดิมที่ถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 80 กว่าก็ถูกขยับขึ้นมาอยู่ในลำดับที่ 18 สำหรับแกนนำนปช.และแกนนำคนเสื้อแดงนั้น ต่างพอใจกับลำดับที่พรรคจัดให้ เพราะมีประมาณ 20 คนที่อยู่ในลำดับที่น่าจะได้เป็นส.ส. อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอดีตส.ส.ระบบเขตเลือกตั้งและอดีตส.ส.สัดส่วนที่มีปัญหาทับซ้อน และถูกจัดอยู่ในลำดับที่ซุ่มเสี่ยงต่อการไม่ได้เป็นส.ส.นั้น พรรคก็จะแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรี หรือเลขานุการรัฐมนตรีแทน
ภายหลังจากที่นายยงยุทธจับหมายเลขที่จะใช้ในการหาเสียงได้เบอร์ 1 นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้พ.ต.ท.ทักษิณทราบทันที โดยพ.ต.ท.ทักษิณพอใจที่ได้เบอร์1 เพราะเชื่อว่าจะทำให้ประชาชนสามารถจดจำได้ง่าย
ขัตติยาไม่รู้มาก่อนลำดับ 42
น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล บุตรสาว พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เปิดเผยเกี่ยวกับการถูกเสนอชื่อเข้าเป็น สส. ในระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 42 โดยระบุว่า ไม่ทราบล่วงหน้าว่า จะได้ลำดับที่เท่าไหร่ และไม่เคยมีการตกลงหารือใดๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน มากกว่า แต่ส่วนหนึ่งแล้ว ก็เชื่อว่า หากไม่มีเหตุการณ์การเสียชีวิตของคุณพ่อ ตนเองก็คงไม่เป็นที่รู้จักของผู้คน ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคคก็คงไม่ทราบ และอาจไม่ได้รับโอกาส ส่วนลำดับที่ 42 นั้น ไม่เคยคิดว่าเป็นลำดับที่ปลอดภัยหรืออยู่ในเซฟโซนอะไร ขณะที่หลังจากนี้ต่อไป หากกลุ่มคนเสื้อแดงมีการชุมนุมขึ้นอีก ตนเองจะขึ้นเวทีปราศรัยหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่เคยขึ้นเวทีปราศรัย เพียงแต่ไปร่วมงานชุมนุมด้วยเท่านั้น ดังนั้น หากจากนี้ไปตนเองปรากฏตัวในฐานะผู้ร่วมชุมนุมคนหนึ่ง ก็คงไม่ผิดอะไร
นายวัลลภ สุปริยศิลป์ อดีตส.ส.น่าน และประธานภาคเหนือพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 113 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ได้แปลกใจอะไรที่ตนถูกจัดอยู่ในลำดับท้ายๆ เพราะนอกจากมีบัญชีรายชื่อที่เป็นส.ส.แล้ว พรรคมีการจัดทำบัญชีรายชื่อสำหรับคนที่จะเป็นรัฐมนตรี เลขานุการฯ และที่ปรึกษาฯ ซึ่งตนเองก็คงจะไปอยู่ในบัญชีนั้นด้วย ส่วนการเลือกตั้งระบบเขต จ.น่านนั้น ตนได้ให้ลูกชายลงแทน แต่สำหรับอดีตส.ส.รายอื่นที่อยู่ในลำดับท้ายที่มีโอกาสน้อยที่จะได้เป็นรัฐมนตรี ก็ไม่ต้องกังวลอะไร เพราะเงื่อนไขหนึ่งที่พรรควางไว้คือเมื่อส.ส.ลำดับต้นที่ได้เป็นรัฐมนตรีด้วยนั้น ก็ให้ลาออกจากส.ส.เพื่อให้เลื่อนบุคคลที่ต่อท้ายขึ้นมา เพื่อจะได้ไม่กระทบต่อเสียงโหวตในสภา
“ ท่านทักษิณบอกกับผมว่าพี่อาวุโสมากแล้ว เป็นส.ส.มา 9-10 สมัย ก็น่าจะปล่อยให้คนมีความรู้ความสามารถ ให้ลูกชายมาลงเขตแทน ส่วนพี่ก็ให้มาลงบัญชีรายชื่อ หากพรรคได้เป็นรัฐบาล ก็มาเป็นรัฐมนตรีก็แล้วกัน ” นายวัลลภ กล่าว
เมื่อถามว่าเป็นที่น่าสังเกตว่าคนเสื้อแดงอยู่บัญชีรายชื่อจำนวนมากจนดันอดีตส.ส.คนอื่นอยู่ในลำดับท้ายๆ นายวัลลภ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าเรามีผู้สนับสนุนเยอะ เราก็หลบไปอยู่บัญชีรัฐมนตรีได้ไม่ได้มีปัญหาอะไร
เมื่อถามดูเป็นการคุ้มครองคนเสื้อแดงอย่างมาก นายวัลลภ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าคนเสื้อแดงก็เป็นกลุ่มคนที่ร่วมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยด้วยกันมา ต้องให้โอกาสเขาได้เข้ามาทำงานบ้าง
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 2086 ครั้ง