ความเป็นผู้นำของอภิสิทธิ์ ยังนำปู ห่าง แต่ปาร์ตี้ลิสต์ คนเลือก เพื่อไทยมีคะแนนเฉือนชนะประชาธิปัตย์ ขณะที่โหวตโนมีเพียง2.78%
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจ ความคิดเห็นจากประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ กรณี ประชาชนกับการเลือก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ จำนวนทั้งสิ้น 3,584 คน ระหว่างวันที่ 19-22 พ.ค. โดยจากผลสำรวจในหัวข้อประชาชนจะเลือก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์ พรรคใด? ปรากฏว่าในภาพรวมทั่วประเทศ กลุ่มตัวอย่างเลือกพรรคเพื่อไทย 41.22% และเลือกพรรคประชาธิปัตย์ 36.88%
สำหรับรายละเอียดผลการสำรวจมีดังนี้
อันดับ |
ภาพรวม |
กรุงเทพฯ |
กลาง |
เหนือ |
อีสาน |
ใต้ |
1.พรรคเพื่อไทย |
41.22% |
33.33% |
36.87% |
62.79% |
55.29% |
8.43% |
2.พรรคประชาธิปัตย์ |
36.88% |
38.06% |
41.15% |
27.13% |
19.74% |
69.35% |
3.พรรคภูมิใจไทย |
3.88% |
0.97% |
0.29% |
0.62% |
12.96% |
1.92% |
4.พรรคชาติไทยพัฒนา |
3.20% |
5.97% |
3.24% |
2.17% |
0.48% |
4.98% |
5.พรรครักประเทศไทย |
1.59% |
2.36% |
3.10% |
0.47% |
1.31% |
0.38% |
6.พรรคอื่นๆเช่นรักษ์สันติ การเมืองใหม่ มาตุภูมิฯลฯ |
3.96% |
3.61% |
4.13% |
3.40% |
4.04% |
4.79% |
ยังไม่ตัดสินใจ |
6.49% |
10.97% |
7.53% |
1.71% |
4.63% |
7.85% |
ไปแต่ไม่เลือกใคร (โหวตโน) |
2.78% |
4.73% |
3.69% |
1.71% |
1.55% |
2.30% |
ด้านนายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยว่า ผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่อง ภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ครั้งที่ 2 กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชน อายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 17 จังหวัดของประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,332 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 16-21 พฤษภาคม 2554 พบว่า ค่าตัวเลขที่ค้นพบในด้านของนายอภิสิทธิ์ ลดลงเกือบทุกตัว โดยเฉพาะด้านความเป็นคนรุ่นใหม่ จากร้อยละ 42.8 มาอยู่ที่ร้อยละ 36.0
ขณะที่ความเป็นผู้นำด้านต่างๆ ของนางสาวยิ่งลักษณ์ กำลังมีตัวเลขเพิ่มขึ้นในทุกด้าน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เช่น ความอดทนอดกลั้น รู้จักควบคุมอารมณ์ จากร้อยละ9.7 มาอยู่ที่ร้อยละ 16.2 การได้รับการยอมรับภายในประเทศ และต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 11.3 มาอยู่ที่ร้อยละ 17.7 ด้านการมีวิสัยทัศน์เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 15.2 มาอยู่ที่ร้อยละ 21.7 ด้านความซื่อสัตย์ สุจริตเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10.3 มาอยู่ที่ร้อยละ 14.7 ด้านความเป็นคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 19.6 มาอยู่ที่ร้อยละ 29.3 ด้านความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 16.1 มาอยู่ที่ร้อยละ 22.5
เมื่อสอบถามถึงความอยากเห็นการดีเบตแสดงวิสัยทัศน์ต่อสาธารณชนระหว่างนายอภิสิทธิ์กับนางยิ่งลักษณ์ พบว่าร้อยละ 59.4 อยากเห็นเพราะอยากได้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ และอยากได้ยินวิสัยทัศน์จากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีโดยตรง อยากดูปฏิภาณไหวพริบความสามารถในการแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศเป็นต้น
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1124 ครั้ง