รูปภาพ : ทหารของกลุ่มกบฏลิเบียบนถนนในเมืองเบนกาซี เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2011
ที่มา : Reuters
ตัวแทนด้านการเเงินและน้ำมันของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลกัดดาฟี่ในลิเบียกล่าววานนี้ (อาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม 2011) ว่า กลุ่มกบฏกำลังจะหมดเงินเพื่อเดินหน่าเศรษฐกิจสงครามแล้วและมิตรประเทศบางส่วนก็ไม่ได้ตระหนักถึงความเร่งด่วนของสถานการณ์นี้
นายอาลี ตาร์ฮูนี่ (Ali Tarhouni) ซึ่งทำหน้าที่ดูแลด้านการเงินให้กับสภาการเปลี่ยนผ่านแห่งชาติ (National Transitional Council) กล่าวว่า การหาแหล่งรายได้กลายเป็นความท้าทายที่ยากลำบากมากๆแม้ว่าเขาเชื่อว่า สุดท้ายแล้วฝ่ายต่อต้านรัฐบาลจะชนะก็ตาม
“เราไม่มีทรัพยากรใดๆเลย ไม่มีเงินแม้แต่ดีน่าร์เดียวเข้ามาในคลังของเราในวันนี้ (อาทิตย์ที่ 29 พ.ค.)” นายตาร์ฮูนี่ อดีตอาจารย์สอนเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวอชิงตันกล่าวในงานแถลงข่าว โดยเสริมอีกว่า “เราทำได้เพียงแค่การส่งออกน้ำมันแค่ครั้งเดียวและได้เงินกลับมา 150 ล้านดอลลาร์เท่านั้น นอกจากนั้นแล้วเราต้องจ่ายค่าเชื้อเพลิงเป็นเงินกว่า 408 ล้านดอลลาร์ มันไม่ใช่ตัวเลขที่ดีเลย”
เขากล่าวกับซินหัวว่า สิ่งสำคัญที่สุดของงานของเขาในตอนนี้ก็คือ การช่วยเหลือพื้นที่ที่ถูกปิดล้อมและผู้อพยพในตูนีเซีย อย่างไรก็ตามการส่งออกน้ำมันซึ่งคาดว่าจะเป็นแหล่งรายได้หลักของกลุ่มกบฏจะไม่สามารถทำได้หากไม่มีความแน่ใจถึงความปลอดภัยในทุ่งน้ำมัน
ในส่วนที่เขาบ่นว่า หลายประเทศซึ่งสัญญาจะให้ความช่วยเหลือนั้นจริงๆแล้วไม่เข้าใจความเร่งด่วนของสถานการณ์นั้น นายตาร์ฮูนี่กล่าวว่า “เราถูกปิดล้อม ประชาชนกำลังตายทุกวัน ผมไม่แน่ใจว่าข้อความตรงๆง่ายๆนี้กำลังไปถึงมิตรของเราหรือเปล่า”
แต่เขายกเว้นในกรณีของกาตาร์และคูเวต โดยกล่าวว่า เขารู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณความช่วยเหลือจากมิตรประเทศในภูมิภาคอ่าวและก้คาดหวังถึงความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากพวกเขา
เมื่อถูกถามว่า เงินบริจาคนั้นถูกใช้ไปเพื่อการซื้ออาวุธหรือไม่ เขาตอบว่า กลไกการใช้เงินมีมาตรการด้านความปลอดภัยและความโปร่งใสเพื่อให้แน่ใจว่า ทรัพย์สินเหล่านี้ถูกใช้ไปเพื่อซื้อเชื้อเพลิง อาหาร และยา ไม่ใช่อาวุธ “แม้ว่าผมปรารถนาจะให้เรามีเงินซื้ออาวุธก็ตาม”
นายตาร์ฮูนี่เพิ่งกลับมายังเมืองเบนกาซีซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มกบฏจากการไปเยือนยุโรปและสหรัฐฯเพื่อหาความช่วยเหลือทางการเงิน
ที่มา สำนักข่าวซินหัว
แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday
