นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรฯ เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย ที่จังหวัดอุดรธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม ระหว่างวันที่ 25 – 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า กระแสนิยมในภาคอีสานของพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะในจังหวัดอุดรธานีนั้นถือว่าดีมาก เห็นได้จากกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เองยังตกใจจนต้องออกมาให้ข่าวว่าพรรคเพื่อไทยปั่นกระแส ซึ่งไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ตาม สำหรับจังหวัดอุดรธานีนั้นขณะนี้ยังน่าเป็นห่วงอยู่ 3 เขตคือ เขต 4 ที่พรรคเพื่อไทยส่งนายขจิตร ชัยนิคม สู้กับนายโชคสมาน ลีลาวงษ์ รมช.คมนาคม ผู้สมัครส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ และเขต 8 นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม สู้กับนายไชยยศ จิรเมธากร รมช.ศึกษาธิการ ผู้สมัครส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากทั้ง 2 เขตนั้นคู่แข่งค่อนข้างจะครบเครื่อง อีกทั้งพรรคประชาธิปัตย์จะต้องทุ่มอย่างเต็มที่เพื่อแย่งเก้าอี้ส.ส.อุดรธานีไปจากพรรคเพื่อไทยให้ได้ เพราะจะเท่ากับว่าเป็นการฉีกหน้าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย
นายขวัญชัย กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนจึงได้เรียกแกนนำคนเสื้อแดงในจังหวัดอุดรธานีทั้ง 2 กลุ่มที่ยังขัดแย้งกันอยู่เกี่ยวกับการส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.อุดรธานีของพรรคเพื่อไทยให้มาพูดคุยกันเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งกันอีกต่อไป โดยขอให้มองข้ามความขัดแย้งไปก่อน อย่าคิดเล็กคิดน้อย เมื่อพรรคเพื่อไทยมีมติส่งใครลงสมัครส.ส.ก็ต้องยอมรับในมตินั้น อย่าไปรังเกียจผู้สมัครที่อีกฝ่ายเชียร์อยู่ เพราะอย่างไรก็ถือเป็นผู้สมัครส.ส.ของพรรคเพื่อไทยอยู่ดี
“ที่น่าห่วงอีกเรื่องคือ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่คุณปู(น.ส.ยิ่งลักษณ์)จะขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ หลังเสร็จสิ้นการหาเสียงในภาคอีสานนั้น ผม คุณปู และเต้น(นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ) ได้วิเคราะห์กันแล้วว่า กระแสนิยมของพรรคเพื่อไทยที่ออกมาในเวลานี้นั้นถือว่า ขึ้นสูงเร็วเกินไปจนน่าตกใจ ดังนั้นเราต้องมาคิดให้ดีว่าจะประคองกระแสตรงนี้ให้อยู่ต่อไปอีก 2-3 อาทิตย์ โดยไม่ให้ตกลงไปได้หรือไม่ ซึ่งจากนี้ไปคงจะต้องคอยติดตามดูกันให้ดี” ขวัญชัยกล่าว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1423 ครั้ง