วันที่ 4 มิ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานวันชาวนาแห่งชาติ ซึ่งตรงกับ วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี มีเกษตรกรร่วมงานกว่า 500 คน นำโดยนายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ข้าวคืออาหารหลักของคนไทยตามความเชื่อของโบราณ ที่เชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ในข้าวคือพระแม่โพสพ ข้าวจึงมีความผูกพันกับคนไทย และพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ทรงให้ความสำคัญมากและทำนุบำรุงมาตลอด โดยชาวนาได้มีบทบาทสำคัญนำพาข้าวไปสู่ชาวโลก
แต่การเปลี่ยนแปลงทั้งอุตสาหกรรม การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และภูมิอากาศ ทำให้ภาคเกษตรเปลี่ยนไป แต่ขณะเดียวกัน ปัจจุบันความมั่นคงทางอาหารเป็นเรื่องสำคัญต่อชาวโลก จึงเชื่อว่าคนไทยอยากเห็นข้าวเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย แต่วันนี้ชาวนายังยากจนอยู่มาก และน่าเป็นห่วงอนาคตลูกหลานว่าจะยังยึดอาชีพชาวนาหรือเกษตรกรรมอยู่หรือไม่ ตนติดตามเรื่องนี้ด้วยความเป็นห่วง เพื่อจะได้ฟื้นฟูวิถีชาวนา ในส่วนของการสร้างหลักประกันความมั่นคงด้านรายได้ ทั้งเรื่องประกันราคา ประกันภัยพืชผล จนกระทั่งกำลังจะมีการตั้งกองทุนหลักประกันชาวนาเพื่อให้ชาวนาสามารถเก็บเงินรายได้ไว้โดยรัฐบาลสมทบ
เพื่อไทยโหนนโยบายปชป.
เวลา 07.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับ 1 พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงกับผู้สูงอายุที่หมู่บ้านสหกรณ์ เขตบึงกุ่ม โดยชูนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่จะทำให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมซึ่งผู้ที่อายุ 60 ปีจะได้ รับเงิน 600 บาท 70 ปีได้รับ 700 บาท 80 ปีได้รับ 800 บาท และ 90 ปีขึ้นไปได้รับ 1,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ระ หว่างเดินหาเสียงนั้นได้พบกับขบวนหาเสียงของนายพนิช วิกิตเศรษฐ ผู้สมัครส.ส.กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้จับมือเพื่อให้กำลังใจกัน รวมทั้ง อวยพรขอให้โชคดีด้วย
จากนั้นเวลา 08.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ไปหาเสียงต่อที่ตลาดสัมมากร เขตสะพานสูง โดยมีพ่อค้าแม่ค้ามาขอถ่ายรูป สวมกอด และมอบมาลัยดอกไม้ให้เป็นจำนวนมากเมื่อเวลา 09.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับ1 พรรคเพื่อไทย ได้เป็นประธานเปิดสนามฟุตบอลชุมชนมุสลิมสัมพันธ์ เขตสะพานสูง จากนั้นได้โชว์เตะลูกฟุตบอลโดยลูกบอลเข้าประตูอีกด้วย จากนั้นเวลา 10.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับ1พรรคเพื่อไทย ได้ขึ้นรถอีแต๋นหาเสียงที่ถนนนิมิตใหม่ซอย 59 เขตคลองสามวา
ชพน.บุกบางแคเน้นช่วยคนชรา
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พร้อมด้วยชาญชัย ชัยรุ่งเรือง ประธานพรรค นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ นำทีมผู้สมัครส.ส.ทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อ เข้าหาเสียงชูนโยบายเพิ่มเบี้ยยังชีพคนชราและคนพิการจาก 500 เป็น 1,000 บาทและสร้างบ้านพักผู้สูงอายุทั่วประเทศ
นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วประเทศมีผู้สุงอายุเฉลี่ย 10 เปอร์เซ็นต์ของประชากร สมควรที่สังคมให้ความช่วยเหลือเกื้อกูล นโยบายที่ผ่านมา รัฐบาลให้เบี้ยยังชีพ 500 ต่อเดือน พรรคมองว่าเป็นจำนวนที่น้อยเกินไปควรเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 บาท เพื่อผู้สูงอายุดำรงชีพได้อย่างสมศักดิ์สรี
นายกรพจน์ กล่าวว่า พรรคมีนโยบายดูแลประชาชนตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงวัยชรา ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย 20 ปีมีเงินล้าน คือ เปิดให้ผู้ปกครองจ่ายเงินสมทบส่วนหนึ่ง และรัฐบาลจ่ายสมทบยอีกส่วนหนึ่งเพื่อเก็บออมเป็นเงินสะสมให้บุตรหลาน เมื่อเรียนจบปริญญาตรีเข้าสู่ตลาดแรงงาน รัฐบาลจะยกเว้นไม่เก็บภาษี 5 ปีแรก สำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุนในการเปิดกิจการเป็นของตนเอง พรรคมีนโยบายกองทุนสร้างเถ้าแก่ซึ่งจะให้เงินกู้ยกเว้นดอกเบี้ยวงเงิน 1 ล้านบาท เมื่อเข้าสู่วัยชราหรือเกษียณอายุ จะเพิ่มสวัสดิการประกันสังคมให้เป็น 2 เท่า
ในการณรงค์หาเสีย พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินได้นำเยาวชนแต่งกายเลียนแบบคนชราเพื่อรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งและชูนโยบายเพิ่มสวัสดิการให้คนชรา โดยประเดิมหาเสียงจุดแรกที่บ้านพักคนชราบางแค นอกจากนี้พรรคยังได้นำ น.ต.ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน สุนารี ราชสีมา น.ส.เยาวภา บุรพลชัย มาหาเสียง ร่วมพูดคุยและขอคะแนนจากผู้สูงอายุด้วย โดยผู้สมัครแต่ละคนเข้าไปซักถามผู้สูงอายุว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร มีญาติมาเยี่ยมบ้างหรือไม่ และต้องการให้รัฐบาลจัดสรรสวัสดิการสวนใดเพิ่มเติม เพื่อนำข้อมูลไปปรับปรุง ทั้่งนี้่ผู้สูงอายุต่างดีใจที่มีคนมาเยียม บางคนขอไปทาแป้งก่อนจะมาถ่ายรูปร่วมกับผู้สมัคร
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1253 ครั้ง