ยิ่งลักษณ์เอ่ยปากข้องใจ “แก้วสรร-หมอตุลย์” ยื่นสอบช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ระบุขออดทนพิสูจนืความจริงพร้อมมอบฝ่ายกฎหมายพิจารณาฟ้องร้อง บอกแม้วไม่ได้แนะนำอะไรเป็นพิเศษ พ.อ.สรรเสริญเผย กองทัพแจ้งความตำรวจเอาผิด “ไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์” ผู้สมัครเพื่อไทยกทม. โชว์ปืน-พูดข่มขู่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับ 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเหตุใด นายแก้วสรร อติโพธิ อดีต คตส. และน.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงษ์ แกนนำเครือข่ายกลุ่มเสื้อหลากสี จึงมายื่นให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ตรวจสอบในช่วงนี้ ทั้งๆ ที่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเดิมที่ผ่านมานานแล้ว
ทั้งนี้ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ส่วนจะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีทั้ง 2 คนใน ฐานที่ทำให้เสียชื่อเสียงและคะแนนนิยมตามกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่นั้น ขณะนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาแต่คงยังไม่มีการกล่าวโทษกันในช่วงนี้
“ดิฉันจะอดทนและพิสูจน์ความจริงต่อสาธารณชนภายใต้กรอบกติกา ตอนนี้อยากจะขอโอกาสเดินทางไปพบกับประชาชนก่อน จากนั้นค่อยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจในวันที่ 3 ก.ค.”น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
เผย“ทักษิณ”ให้กำลังใจแต่ไม่ได้แนะนำอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในเรื่องนี้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ให้กำลังใจในเรื่องนี้ในฐานะพี่ชาย แต่ไม่ได้แนะนำอะไร ทั้งนี้ส่วนตัวก็ทราบดีอยู่แล้วว่าเมื่อเข้ามาทำงานการเมืองจะต้องเจอกับอะไรบ้าง และ ไม่รู้สึกหนักใจ แต่ตอนนี้ขอทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก่อน และขอโอกาสชี้แจงนโยบายกับประชาชน เชื่อว่าทุกฝ่ายจะพิจารณาและให้ความเป็นธรรมกับตน
“ดิฉันคงไม่ถอดใจเพราะตัดสินใจมารับใช้ประชาชนแล้ว หากมีแรงกดดันในด้านต่างๆ ก็จะอดทนและทำงานให้ดีที่สุด ประกอบกับในขณะที่ลงพื้นที่หาเสียงในจังหวัดต่างๆ นั้น มีประชาชนเดินทางมาแนะนำและให้กำลังใจจำนวนมาก สิ่งนี้จะยิ่งทำให้ไม่รู้สึกย่อท้อ อย่างไรก็ตามก่อนที่จะตัดสินใจลงมาทำงานทางการเมืองในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งนั้นก็เชื่อว่าจะต้องเจอแรงกดดันต่างๆ อยู่แล้ว แต่จะทำงานรับใช้ประชาชนให้ดีที่สุด”น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
ปัดไม่รู้เรื่องหมู่บ้านเสื้อแดง
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า กรณีที่สื่อต่างประเทศรายงานว่า ในหลายพื้นที่มีหมู่บ้านเสื้อแดงนั้น ไม่ทราบเรื่อง แต่พรรคเพื่อไทยจะทำหน้าที่ตามนโยบายที่เคยให้ไว้กับประชาชน ส่วนมวลชนคนเสื้อแดงนั้นถือเป็นกลุ่มคนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ในส่วนของตัวเองก็ควรทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอแล้ว
พท.ฟ้องกกต.
เวลา 13.20 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางมายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เอาผิดกับนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน(กลุ่มคนเสื้อหลากสี) ที่ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อประชาชน และเปิดเว็บไซด์เฟสบุ๊ค เพื่อขอให้สอบสวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นการกระทำที่ผิดมาตรา 53 (5) ของระเบียบกกต. ทำให้ผู้สมัครเสื่อมเสียคะแนนเสียง ซึ่งหากบริสุทธิ์ใจจริงจะต้องยื่นก่อน หรือหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น
“หากจะเปรียบเทียบกับการกระทำของคนเสื้อแดงที่ไปก่อกวนการหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่สมควรเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ทันทีและตรวจสอบว่าเป็นแดงจริงหรือแดงเทียม เพื่อไม่เป็นการทำให้เสียบรรยากาศการหาเสียง”นายพร้อมพงศ์กล่าว
ทหารแจ้งความพท.ใช้ปืนขู่
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก (ทบ.) กล่าวว่า กองทัพได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ผู้สมัคร สส.กทม.เขต9 พรรคเพื่อไทย (พท.) ในข้อหาขัดขวางการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติด 315
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา มีการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ชุด315 หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ( นปอ.) นำโดย จ.ส.อ.สุจินต์ อินทรพิทักษ์ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ ปส.315 ได้นำแบบฟอร์มสำรวจข้อมูลยาเสพติดไปแจกจ่ายใน หมู่บ้าน ทรัพย์เจริญ ม.2 ถ.เรียบวารี ต.โคกแฝก หนองจอก กทม. เพื่อช่วยเหลือนำผู้ติดยาเสพติดมาบำบัด
ไพโรจน์
“ระหว่างนั้น นายไพโรจน์ นั่งรถซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์เข้ามา พร้อมพูดจาไม่สุภาพ หลังจากนั้นก็มีลูกน้อง2-3 คนตามมาพร้อมกับเปิดเอวให้เห็นว่ามีการพกพาอาวุธปืน รวมทั้งกล่าวอีกว่า ถ้าเป่านกหวีดปิ๊ดเดียวเจ้าหน้าที่จะไม่ได้ออกจากที่นี้ โดยนายไพโรจน์ได้ดึงเอกสารที่ทำข้อมูลไปดูแล้วคืนกลับมา ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติและขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ จ.ส.อ.สุจินต์ ได้แจ้งผู้บังคับบัญชา แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผอ.รมน.ภาค 1 ได้ทราบและได้รับอนุญาตว่าให้สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ จนมีการแจ้งความไปเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.
ทั้งนี้ฝากเรียนทุกฝ่ายว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจที่เข้าไปในชุดเครื่องแบบ ในงานหน้าที่ขอความกรุณาให้เกียรติเจ้าหน้าที่อย่าพูดจาด้วยคำพูดที่ดูหมิ่นดูแคลน และอย่าไปขัดขวางการดำเนินงานเพราะถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
“เอกสารที่นายไพโรจน์ ดึงไปดูก็เห็นว่าไม่มีรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเมืองทั้งสิ้น ส่วนการที่เพิ่งแจ้งความเอาผิดกับนายไพโรจน์นั้นเป็นเพราะ ต้องดำเนินการตามขั้นตอนและรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นลำดับชั้น กระทั่งพล.ต.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รองแม่ทัพภาคที่ 1 ทำการแทน ผอ.รมน.ภาค 1 ได้อนุมัติว่าสามารถดำเนินการแจ้งความได้”พ.อ.สรรเสริญกล่าว
พ.อ.สรรเสริญกล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วและสั่งให้มีการชี้แจงต่อสังคมด้วย
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1211 ครั้ง