พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 โดยตอนหนึ่งได้มีการพูดถึงบทบาทของทหารในการปฎิบัติภารกิจปราบปรามยาเสพติดตามแผนปฎิบัติ 315 ว่า การที่ทหารลงไปก็เข้าไปอย่างนิ่มนวลการดำเนินการจับกุมเป็นหน้าที่ของตำรวจ ทหารไม่ได้สนใจว่าเป็นพื้นที่หัวคะแนนของใคร ทหารมีหน้าที่สนับสนุนแผน 5 รั้วเพื่อแก้ไขป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนและชุมชนในพื้นที่เป็นอย่างดีเพราะเป็นแผนตัดตอนไม่ให้มีการซื้อขายเสพติดโดยถือว่าจะเป็นแนวทางที่แก้ไขปัญหาได้รวดเร็วที่สุดเพราะไม่สามารถหาซื้อยาเสพติดได้
สำหรับบทบาททางการเมืองของกองทัพ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กองทัพสนับสนุนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่อยากให้ประเทศชาติผ่านพ้นความไม่สงบได้เป็นอย่างดี ตนเองเป็นห่วงเรื่องสื่อสารมวลชนเพราะเป็นฐานันดรหนึ่งที่สำคัญต่อการรับรู้ของประชาชน แต่ปรากฎว่ามีกลุ่มบางพวกชักจูงมีความไม่ปรารถนาดีใช้สื่อไปในทางที่ผิด อย่างเช่น ทำให้กองทัพมีปัญหากับประชาชนทั้งๆที่ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น
“ในความคิดส่วนตัวสื่อมีสองประเภท 1.สื่อในระบบ คือ สื่อสิ่งพิมพ์ และอื่นๆที่เรารู้จักและเห็นได้ทั่วๆไปสิ่ง 2.สื่อนอกระบบ คือ ดาวเทียมออกอากาศ สงสัยวาตอนนี้ทำให้เกิดการแตกแยกหรือเปล่าไม่อยากโทษว่าสื่อใดสื่อหนึ่งเป็นต้นเหตุแต่เพื่อให้เกิดความปรองดองในชาติสื่อทั้งสองประเภทต้องร่วมมือกัน ผมไม่ได้บอกว่าอันไหนผิดอันไหนถูก
ผมเป็นทหารไม่มีอำนาจห้ามสื่อ บางเวลาสิ่งที่นำเสนอออกมาก็ไม่เป็นธรรมกับกองทัพแ แต่เอาล่ะผมก็ไม่อยากสนใจ มีครั้งหนึ่งผมได้รับโทรศัพท์จากต่างประเทศตำหนิผมว่าปกป้องดินแดนไม่ได้และทำร้ายประชาชน ผมก็อธิบายเขาไปซึ่งเขาก็เข้าใจเพราะก่อนหน้านี้เขารับความเข้าใจมาจากสื่อพวกนี้ อยากถามว่เราจะอยู่กันแบบนี้ต่อไปหรือ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในฐานะประชาชนคนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมควรให้กระบวนการนี้เป็นไปตามกลไกที่เคยเป็ย ใครผิดกฎหมายว่าไปตามผิด แต่มาบอกว่ากลไกไม่ถูกไม่ได้ กระบวนการยุติธรรมมีของเขาอยู่แล้ว ใครผิดใครถูกก็สู้กันไปตามกระบวนการ
“เรื่องในอดีต2ปีที่ผ่านมาผมไม่อยากพูดแล้ว ในฐานะเจ้าหน้าที่ขอแสดงความเสียใจกับกการสูญเสียที่เกิดและไม่ควรเกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่และคนไทย มันไม่ควรเกิดขึ้นอีกแล้ว จะว่าใครผิดใครถูกขอให้ไปว่าตามกฎหมาย การเลือกตั้งจึงเป็นสิ่งสำคัญขอให้เลือกคนดีมีคุณธรรมเข้ามาทำหน้าที่มีความสำคัญ รู้ว่าอะไรดี รู้ว่าอะไรผิด”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์มากขึ้น เราให้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในเรื่องนี้โดยเฉพาะการดำเนินการตามกฎหมาย ในรูปของวิชาการก็มีการแสดงความคิดเห็นต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงแต่พ.ศ.2475 แต่อยากขอให้ความเป็นธรรมแก่สถาบันด้วยเพราะตั้งแต่พ.ศ.2475 สถาบันทรงทำทุกอย่างในวิถีทางตามปกติ ทหารไม่ใช่ผู้ผูกขาดความจงรักภักดีแต่ทหารมีหน้าที่ปกป้องสถาบันในฐานะมีคุณประโยชน์ต่อแผ่นดินที่รักษาแผ่นดินให้กับคนไทย ถึงวันนี้พระองค์มีพระชนมพรรษามากขึ้นวันนี้พระองค์ท่านควรได้พักผ่อนทอดพระเนตรเห็นความก้าวหน้าของประเทศไทย
“ได้รับทราบจากฝ่ายความมั่นคงว่าในช่วงเลือกตั้งมีกระบวนการจากต่างประเทศขึ้นด้วยการนำเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งเอ่ยชื่อได้ตอนนี้เลยว่า คือ นายใจ นายจักรภพ พยายามทำให้สถาบันเสียหาย เกี่ยวพันยึดโยงหลายกลุ่ม เรายอมไม่ได้ ประชาชนทุกคนต้องออกมาช่วยกันดูแลพระองค์ท่านเพราะพระองค์ท่านได้เคยดูแลเรา ท่านไม่เคยมาตอบคำถามใคร เพราะสิ่งทีกล่าวอ้างทั้งหมดไม่เป็นธรรม ไม่สุภาพ สังคมต้องไปดูว่าทำไมมันถึงเกิดสิ่งเหล่านี้ได้
สถาบันไม่เคยสั่งให้ใครทำโน่นทำนี้มีแต่สั่งให้ช่วยการสร้างความสุขให้ประชาชนอย่างเดียวเท่านั้น อยากถามว่าที่ต้องการให้แก้ไขกฎหมายมาตรา 112 เรื่องการละเมิดสถาบันนั้นถ้าพวกท่านไม่ไปยุ่งไม่ไปละเมิดจะถูกดำเนินคดีไหม พระองค์ท่านเคยมีรับสั่งแล้วว่าไม่อยากให้มีการดำเนินคดี แต่ปรากฎว่าตอนนี้มีกระบวนการไม่ถูกเกิดขึ้นทั้งที่พระองค์ท่านแสดงความเมตตา แบบนี้ถูกต้องหรือไม่”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ทิ้งท้ายว่า อยากให้ประชาชนออกมาไปใช้สิทธิการเลือกตั้งให้มากๆเพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นปัญหาไปตามระบอบประชาธิปไตยโดยต้องเลือกคนดีมีคุณธรรมเข้าไปทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติก้าวหน้าต่อไป
ภายหลังพล.อ.ประยุทธิ์ ออกใช้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ ชาวบ้านจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนในโชเยลมีเดีย ได้ออกมาสนับสนุนท่าทีของผบ.ทบ.อย่างคับคั่ง
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1122 ครั้ง