สุเทพ ปาดน้ำตาแจงคนตายราชประสงค์ ยันชุดดำการ์ดนปช.ทำจับได้หลายคน

“สุเทพ”น้ำตาคลอแฉกลางราชประสงค์ ยันชายชุดดำทำร้ายประชาชน จับได้หลายคน ไม่ใช่ทหารปลอมตัวมาทำร้ายประชาชน

วันที่ 23 มิ.ย. พรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดเวทีปราศัยที่ลานเซ็นทรัลเวิร์ล แยกราชประสงค์ โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ได้ปราศรัย ชี้แจงเหตุการณ์การสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หรือคนเสื้อแดงที่เกิดขึ้นในช่วง เม.ย.-พ.ค.53 หลังจากมีขบวนการใส่ร้ายป้ายสีกล่าวหาบิดเบือนว่า”นายกฯ อภิสิทธิ์ สั่งฆ่าประชาชน” เพื่อให้ประชาชนประกอบการตัดสินใจในการลงคะแนนเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.

นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัครสส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. เขียนข้อความลงเว็บไซต์กล่าวหาว่า นายกฯ สั่งฆ่าประชาชน และเป็นนายกรัฐมนตรีที่ทำให้คนตายจากต่อสู้ทางการเมืองมากที่สุด ขอยืนยันใกล้สถานที่เกิดเหตุว่าเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 ไม่มีคนตายเลย ไม่มีการปราบปรามฝูงชนที่แยกราชประสงค์

นายสุเทพได้ปราศรัย อธิบายเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุม พร้อมกับนำคลิปวิดีโอมาฉายประกอบ และระบุว่าผู้ที่ฆ่าประชาชนเป็นฝีมือของ”คนชุดดำ”ที่ติดอาวุธสงครามแฝงตัวเข้ามาปะปนมากับกลุ่มผู้ชุมนุม หลังจากก่อเหตุแล้วส่วนหนึ่งก็หลบหนีไป ส่วนหนึ่งถอดชุดดำมาทำหน้าที่เป็นการ์ด นปช.ปล้นอาวุธของเจ้าหน้าที่เพื่อไปก่อเหตุความรุนแรงต่างๆ 

นายสุเทพ ปราศรัยต่อว่า เหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมครั้งแรกเกิดขึ้นในวันที่ 10 เม.ย.จำนวน 26 ราย เป็นทหาร 20 นาย กลุ่ม นปช.5 คน และผู้สื่อข่าว 1 คน เป็นฝีมือกลุ่มคนเสื้อดำที่แฝงเข้ามาก่อเหตุใช้อาวุธสงครามทำลายเพื่อให้ต่างฝ่ายเข้าใจผิดแล้วเข้าห้ำหั่นกัน มีการใช้รถยนต์ขนคนเข้ามาปฏิบัติการในพื้นที่และขนคนกลับออกไปด้วย ซึ่งกล้องซีซีทีวี ของกทม.จับภาพไว้ได้ และหลังเกิดเหตุกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI)จับกุมผู้ต้องหา 3 รายพร้อมรถยนต์และอาวุธสงครามจำนวนมากที่ซ.อ่อนนุช ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดี

“พื้นที่ชุมนุมมีการ์ดนปช.คุ้มกันหนาแน่น ไม่มีใครเข้าไปในพื้นที่ได้ แต่ทำไมคนชุดดำจึงเข้าไปในพื้นที่ชุมนุมได้ โดยไม่มีใครขัดขวาง”นายสุเทพ กล่าวบนเวทีปราศรัย

ทั้งนี้ระหว่างการปราศรัยในช่วงที่กล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในช่วงที่มีเหตุการณ์สลายการชุมนุมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และได้หยุดพูดไประยะหนึ่ง โดยเนื้อหาในช่วงดังกล่าวมีดังนี้  

“ผมไม่กล้ามองหน้านายกฯ ผมเข้าใจเลย ผมเรียนได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเดือนเมษายน ถ้าผมถามนายกฯแม้แต่คำเดียว จะลาออก แต่ผมไม่ถาม ผมรู้นายกฯคิดอะไร ผมกลัวนายกฯจะลาออก ผมกลัวนายกฯตัดสินใจยุบสภา ผมเห็นหน้านายกฯ ผมเห็นความปวดร้าวในสายตานายกฯ ถ้านายกฯยุบสภา ลาออกในวันนั้น บ้านเมืองจะยุ่งเหยิงยับเยินขนาดไหน ผมเห็นธาตุแท้นายกฯเห็นภาวะความเป็นผู้นำ ที่กล้ำกลืนให้คนประณามว่าเป็นนายกฯมือเปื้อนเลือด แต่ประคับประคองแก้สถานการณ์ ถ้าลาออกคนหัวรุนแรงอย่างณัฐวุฒิ จตุพร จะยอมเลิกหรือ ผมเชื่อโดยไม่ถามนายกฯว่าที่ต้องกล้ำกลืนความเจ็บปวดเพื่อพาชาติรอดวิกฤตินั้น เพราะท่านวิเคราะห์ออกว่า แม้ยอมทำตามแต่ตราบใดที่แกนนำไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการย่อมไม่มีวันเลิก สิ่งที่เขาต้องการคือ นายของเขา ทักษิณต้องไม่ติดคุก ต้องได้เงิน 4.6 หมื่นล้านคืน ต้องกลับมามีอำนาจรัฐเหมือนเดิม”

ณัฐวุฒิแถมีคนตายราชประสงค์

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ถึงการปราศรัยของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ที่เวทีราชประสงค์ ว่า เป็นความพยายามของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะใช้ประเด็นนี้สร้างกระแสเพื่อให้ความนิยมในพรรคสูงขึ้น สิ่งที่ปราศรัยก็ไม่ปรากฏสาระหรือประเด็นข้อมูลที่เป็นเรื่องใหม่ และแต่ละประเด็น คนเสื้อแดงก็มีข้อมูลข้อเท็จจริงที่ชี้แจงต่อสังคมไปแล้ว เชื่อว่าประชาชนจะใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ
         
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ไม่น่าเชื่อว่าหลายคำพูดมาจากคนสำคัญของรัฐบาลอย่างนายสุเทพ เพราะไม่รับผิดชอบความสูญเสียต่อประชาชนที่เกิดขึ้น คำบอกที่ว่าไม่มีใครตายที่ราชประสงค์ แต่จะตายที่ไหนก็ตาย เพราะข้อเท็จจริงคือมีสไนเปอร์มีกำลังทหารออกมา มีทหารยิงใส่ประชาชนหลายที่ นายสุเทพเป็นรองนายกรัฐมนตรีไม่ใช้หัวหน้ารปภ.ของราชประสงค์
         
“คุณสุเทพเที่ยวนี้พูดเรื่องเดิมแต่เพิ่มร้องไห้แค่นั้นเอง และเราจะชี้แจงเท่าที่จำเป็น”นายณัฐวุฒิกล่าว

ภาพประกอบข่าว

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 13.30 น. นายณัฐวุฒิ เดินทางมาไปที่สน.ทุ่งมหาเมฆ พร้อมนำบันทึกข้อความของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เขียนลงในเวปไซน์เฟซบุก ฉบับที่ 4 กรณีระบุว่า มีชายชาวอีสานถูกว่าจ้างให้มาทำบังไฟเพื่อใช้ก่อเหตุในวันชุมนุมแล้วไม่ได้รับค่าจ้าง และถูกกลุ่มชายชุดดำไล่ยิงศพนำมาเผาในวัดปทุมวนาราม และมีการไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่สน.ทุ่งมหาเมฆ และได้มีการสอบถามข้อเท็จจริงจากพ.ต.อ. ชาติชาย วรกุล ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
         
นายณัฐวุฒิ เปิดเผยว่า ตำรวจได้ยืนยันว่า เคยได้ยินเรื่องนี้จากเด็กหนึ่งคนหนึ่งแต่ไม่มีการลงบันทึกประจำวันเอาไว้ และไม่ปรากฎบันทึกหลักฐานหรือเอกสารใดๆที่ตรงตามข้อความในเฟซบุกของนายอภิสิทธิ์ จึงอยากเรียกร้องนายอภิสิทธิ์ อย่าใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อผลประโยชน์เรียกคะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ และจะเดินหน้าตรวจสอบในเรื่องนี้