หลังจากที่กระแสสังคมต่อต้านการนิรโทษกรรมพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรของพรรคเพื่อไทย ซึ่งล่าสุดพรรคประชาธิปัตยืได้ออกแคมเปญ ไม่ล้างผิดนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นโยบายหลักของพรรคให้ความสำคัญเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องของประชาชน ไม่มีนโยบายนิรโทษกรรมหรือคืนเงินให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะพรรคต้องทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน ส่วนเรื่องความปรองดองนั้น ต้องมีการหารือกับคณะกรรมการที่ได้ดำเนินการมาแล้วภายใต้หลักสิทธิที่เท่าเทียมกัน ถ้ามีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาล เรื่องต่างๆ จะชัดเจนมากขึ้น
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าเรื่องการนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านให้นั้น พรรคประชาธิปัตย์พูดเองเออเองมาตลอด โดยพรรคเพื่อไทยไม่มีเคยพูดเรื่องนี้ในการปราศรัยเลย โดยเฉพาะคณะกรรมการบริหารพรรคก็ไม่เคยมีการหารือหรือมีมติเรื่องเหล่านี้เลย ทุกเวทีปราศรัย น.ส.ยิ่งลักษณ์จะพูดเพียงว่าจะเริ่มการปรองดอง ด้วยการทำให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน โดยไม่มีใครพูดเรื่องนิรโทษกรรมและคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทให้ พ.ต.ท.ทักษิณแม้แต่เวทีเดียว
“เรื่องนี้เป็นการพยายามสร้างความเข้าใจผิดให้พรรคเพื่อไทยของพรรคประชาธิปัตย์ ผมจึงอยากเสนอให้นายอภิสิทธิ์ใช้ข้อความในการหาเสียงว่า “ผมจะรับผิดชอบต่อชีวิตคนไทยทุกคน และจะไม่ล้างเลือดประชาชนด้วยน้ำลายของพวกผมเอง” ไปป้ายหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์เป็นข้อความสุดท้าย เพราะเชื่อว่าข้อความนี้จะเป็นข้อความที่ทำให้ประชาชนพอใจพรรคประชาธิปัตย์มากที่สุดในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะคำถามนี้เป็นคำถามคาใจของประชาชนมาตลอดที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล และนายอภิสิทธิ์ก็ไม่เคยมีคำตอบให้กับประชาชน”นายณัฐวุฒิกล่าว
นายณัฐวุฒิกล่าวด้วยว่า กรณีที่นายสุเทพพยายามเปิดประเด็น พ.ต.ท.ทักษิณเคลื่อนไหวประสานงานกับพรรคการเมืองขนาดกลางและขนาดเล็กเพื่อจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยนั้น ตนได้สนทนากับ พ.ต.ท.ทักษิณในเรื่องนี้อย่างชัดเจนแล้ว โดย พ.ต.ท.ทักษิณยืนยันว่าไม่มีการติดต่อหรือประสานงานกับพรรคการเมืองไหนเพื่อให้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย และตอนนี้ก็ทำเพียงเอาใจช่วยว่าอยากให้ทุกฝ่ายเคารพเสียงประชาชน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของสันติภาพภายในประเทศไทย
ทั้งนี้ หากพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการประสานกับพรรคการเมืองให้เข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาลก็จะต้องดำเนินการอย่างชัดเจน โดยมีมติของคณะกรรมการบริหารพรรคออกมาว่าจะประสานกับพรรคการเมืองไหน และทุกอย่างจะดำเนินการหลังวันที่ 3 ก.ค.แล้ว เพราะการดำเนินการในช่วงนี้ไม่เป็นประโยชน์ เนื่องจากทุกพรรคการเมืองต่างยังคงดำเนินการเพื่อคะแนนเสียงของพรรคตัวเองอยู่ และที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยก็มีท่าทีชัดเจนต่อกรณีการไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยเพียงพรรคการเมืองเดียว สำหรับพรรคการเมืองอื่นๆ ยังไม่มีท่าทีใดๆ ทั้งสิ้น
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ได้ส่งข้อความผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงประชาชน (Abhisit Vejjajiva) เป็นตอนที่ 7 โดยใช้หัวข้อว่า “จากใจอภิสิทธิ์ถึงคนไทยทั้งประเทศ 7 ตอน นิรโทษกรรมไม่ใช่นโยบายเพื่อไทย? โดยหยิบเอาคำให้สัมภาษณ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 3 เป็นผู้ดูแลเรื่องการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ วันถัดมา น.ส.ยิ่งลักษณ์เปิดปราศรัยใหญ่ครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่พูดบนเวทีเป็นภาษาเหนือว่า “ไม่เคยกลับบ้านครั้งไหนซึ้งใจเท่าครั้งนี้มาก่อนเลย น้องสาวกลับยังขนาดนี้ ถ้าพี่ชาย (พ.ต.ท.ทักษิณ) กลับจะขนาดไหน” คุณยิ่งลักษณ์ยังระบุต่อไปว่า “พรรคเพื่อไทยจะคิดใหม่ทำใหม่ โดยมีทักษิณช่วยคิด แต่ยิ่งลักษณ์เป็นคนขอทำ”
ข้อความของนายอภิสิทธิ์ยังระบุว่า วันเดียวกันนั้น ร.ต.อ.เฉลิมย้ำบนเวทีปราศรัยว่า “แนวคิดการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ผมเป็นคนเปิดออกมาเอง เพราะถ้าไม่พูดแล้วประชาชนไม่เอา ดังนั้น ต้องเปิดหน้าชนเลย พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกศาลสั่งจำคุกกรณีลงนามให้ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ภริยา ไปซื้อที่ดินจากกองทุนฟื้นฟูฯ ย่านรัชดาฯ แต่คนในพรรคประชาธิปัตย์ คำหนึ่งสองคำก็บอกว่า “ทักษิณทุจริต” ถ้าจะนิรโทษให้ ผมจะนิรโทษให้ในเรื่องนี้”
นายอภิสิทธิ์ ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมวันนั้นทั้งนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยไม่ออกมาคัดค้าน ที่สำคัญคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีการติดป้ายหาเสียงชัดเจนว่า “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างประเทศหลายแห่งว่า “จะกลับประเทศไทยในเดือนธันวาคมเพื่อร่วมงานแต่งงานของบุตรสาวคนโต และพูดถึงการนิรโทษกรรมโดยอ้างว่าไม่ใช่ทำเพื่อคุณทักษิณเพียงคนเดียว แต่เพราะคุณทักษิณคือบุคคลหนึ่งที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงต้องได้ประโยชน์จากการนิรโทษกรรมด้วย”
นอกจากนั้น ยังปรารภเสมอว่าเงิน 4.6 หมื่นล้านถูกรัฐปล้นไป เหลือเงินเพียงแค่ 3 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ทำไมไม่มีใครโต้แย้งว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีนโยบายที่จะทำเรื่องนี้ แต่กลับเดินหน้าพูดต่อสาธารณะในหลายเวทีเกี่ยวกับแนวทางนิรโทษกรรมในลักษณะรับลูกกันเป็นทอดๆ ตลอดเวลา
ล่าสุดบุตรสาวคนโตของ พ.ต.ท.ทักษิณก็ออกมาพูดเองว่ายังมั่นใจว่าพ่อจะได้กลับมางานแต่งงานของตัวเองในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งก็สอดรับกับที่คุณยิ่งลักษณ์เคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า “พี่ชายจะกลับประเทศมาร่วมงานแต่งลูกสาว”
“ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาโดยที่ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีการล้างความผิดให้ สถานที่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องไปไม่ใช่งานแต่งงานบุตรสาว แต่ประตูคุกเปิดรออยู่ เพราะเป็นผู้ต้องหาหนีคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินให้จำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา ดังนั้นทันทีที่ถึงแผ่นดินไทย ก็ต้องถูกควบคุมตัวไปรับโทษตามกฎหมาย” นายอภิสิทธิ์ ระบุ
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์หาเสียง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันแรกที่เริ่มมีการหาเสียง สิ่งแรกที่พรรคเพื่อไทยทำคือการติดป้ายทั่วประเทศว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เคยให้สัมภาษณ์ว่าได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รับผิดชอบเรื่องนโยบายนิรโทษกรรม
“แต่ตอนนี้การหาเสียงผ่านโค้งสุดท้ายเข้าสู่ทางตรง พรรคเพื่อไทยกลับมาบอกสิ่งที่ไม่ตรงกับการหาเสียงที่ผ่านมากว่า 40 วันคงจะไม่ได้ วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณที่คิดนโยบายก็ให้สัมภาษณ์ว่า การนิรโทษกรรมไม่ใช่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณคนเดียว แต่ทำให้ทั้งหมด ซึ่งหมายรวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณด้วย แล้วหมายถึงผลกระทบในคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ศาลฎีกาตัดสินว่าร่ำรวยผิดปกติเนื่องมาจากการทุจริตคอรัปชั่น และให้ยึดเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทเป็นของแผ่นดิน” นายกอร์ปศักดิ์กล่าว
เขากล่าวด้วยว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยมีความชัดเจนว่าจะนิรโทษกรรมให้ทุกคน รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณด้วย ดังนั้นถ้าในวันที่ 3 ก.ค. ประชาชนเลือกเบอร์ 1 จะหมายความว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะต้องเสนอพ.ร.บ.งบประมาณเป็นกรณีพิเศษให้สภาเห็นชอบ และคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งในการลงคะแนนเสียงล่วงหน้าในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ ขอให้ทุกคนตัดสินใจให้ถูกว่าจะเลือกทางไหน ถ้าเลือกเบอร์ 1 หมายถึงการนิรโทษกรรมทั้งหมด รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณด้วย แต่ถ้าเลือกเบอร์ 10 จะไม่มีการล้างผิดให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง และจะไม่มีการคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาท
เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาชูประเด็นการนิรโทษกรรมในการหาเสียงด้วย นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า ตามแนวทางการปรองดองของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 10 ข้อ ได้ระบุว่าการนิรโทษกรรมในคดีการเมืองสามารถคุยกันได้ แต่จะไม่มีการล้างผิดในคดีอาญาหรือการคืนเงินแต่อย่างใด
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ตั้งเวทีปราศรัยบริเวณแยกราชประสงค์ ทำให้พรรคเพื่อไทยถึงกับไปไม่เป็น ออกมาพูดแบบสวิง ระส่ำระสาย ทั้งนี้ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง พรรคจะชูคำว่า “ไม่ล้างผิด” ติดตามป้ายหาเสียงทั่วประเทศ
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 2207 ครั้ง