เพื่อไทยเต้น! เตรียมให้ทีมกฎหมายรวบรวมหลักฐาน เอาผิดกลุ่มสยามสามัคคีขึ้นป้ายไม่ให้เลือกพรรคที่เผาบ้านเมือง ล้มล้างสถาบัน เชื่อมีบิ๊กนักการเมืองหนุนหลัง โยงซีดีโจมตีเพื่อไทย กลุ่มสยามสามัคคียัน ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ แจงเกิดหายนะ 3 ด้านคุกคามสถาบัน หากไม่ช่วยกัน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มสยามสามัคคี ขึ้นป้ายขนาดใหญ่ไม่ให้ประชาชนเลือกพวกเผาบ้านเผาเมือง และพวกล้มล้างสถาบันว่า การขึ้นป้ายโจมตีพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่งในช่วงใกล้การเลือกตั้งนั้น เป็นเรื่องที่หวังผลทางการเมืองส่งผลให้ตัดคะแนนเสียงของพรรคการเมืองใดการเมืองได้ ทั้งนี้ กลุ่มสยามสามัคคีน่าจะมีบิ๊กนักการเมืองอยู่เบื้องหลังซึ่งสอดคล้องกับการแจกซีดีโจมตีพรรคเพื่อไทย ก่อนหน้านี้ ดังนั้นเชื่อว่า น่าจะเป็นกระบวนการกลุ่มเดียวกัน
นายพร้อมพงศ์ ได้กล่าวว่า ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย กำลังรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อหาช่องเอาผิด ส่วนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และเจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองจะต้องเร่งดำเนินการ พร้อมทั้งวิงวอนขอให้กลุ่มคนที่ใช้วิชามาร ทำให้ประชาชนแตกแยกและไม่สร้างสรรค์ หยุดพูดในวังวนข้อกล่าวหาเดิมๆ ที่ไม่มีมูลความจริงแล้วหันมาพูดแบบสร้างสรรค์ดีกว่า
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 ได้มีการขึ้นป้ายขนาดใหญ่ ไม่ให้เลือกคนเลว และเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่โรงแรมสยามซิตี้ กลุ่มสยามสามัคคี นำโดย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายวรินทร์ เทียมจรัส อดีต ส.ว.สรรหา แพทย์หญิงพรพันธ์ บุญญรัตน์พันธ์ นายชัยวัฒน์ สุรวิชัย นายสันติสุข โสภณสิริ พล.อ.ภาษิต สนธิขันธ์ ร่วมกันออกมารณรงค์แจกใบปลิว สติกเกอร์ทั่วประเทศโดยใช้สโลแกนว่า” 3 กรกฎา ไปเลือกตั้ง ไม่ให้คนเลวปกครองบ้านเมือง ไม่เลือก…คน…เผาบ้านเผาเมือง ไม่เลือกพวก…เคืองแค้นสถาบัน “ พร้อมกับแถลงการณ์ว่า”3 หายนะภัย 3 ข้อเรียกร้องคือ 1 หายนะภัยอันเนื่องมาจากการคุกคามสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งวันนี้ ไม่เพียงแต่มีการวิพากวิจารณ์เท่านั้นแต่มีการจัดตั้งเป็นกระบวนการ ใช้สื่อทุกรูปแบบและแสดงออกอย่างเปิดเผยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ใช้คำพูดหลายครั้งที่สะท้อนจิตใต้สำนึกเป็นอย่างดีว่าอดีตนายกรัฐมนตีคิดอย่างไรต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2.หายนะภัยจากการนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ หากอาศัยคะแนนเสียงจากประชาชนมาลบล้างความผิดกลายเป็นความชอบธรรมที่สามารถฟอกผิดให้กับคนใดคนหนึ่งได้ นั่นหมายความว่าคำพิพากษาของศาลสถิตยุติธรรมได้ถูกทำลายลงสิ้นเชิง ซึ่งจะก่อให้ความรุนแรงต่อประเทศอีกแน่นอน และ 3.หายนะภัยจากประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ที่มีการเผาบ้านเผาเมืองอย่างที่ผ่านมา หายนภัยที่คุกคามทั้งสามประการดังกล่าวคือชะตากรรมของบ้านเมือง คือหายนะภัยเฉพาะหน้าที่จะเดิมพันด้วยคะแนนเสียงของประชาชนในวันที่ 3 ก.ค.นี้
โดยพล.อ สมเจตน์ กล่าวว่า ทางกลุ่มได้ติดตามสถานการณ์ของประเทศมาโดยตลอดเพื่อเสนอต่อสาธารณะชนร่วมกันแก้ไขปัญหา ในการเลือกตั้ง 3 ก.ค.นี้หากประชาชนไม่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันมากๆประเทศชาติจะกลับสู้หายนะอีกครั้ง ขอแถลงการณ์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดภาวะสุ่มเสี่ยงซ้ำรอยประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ความรุนแรง ในปี 2552-2553 จนยากที่จะประสานรอยร้าว หากประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยจะเกิดหายนะภัย 3 ด้านมาจากการคุกคามสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ขณะนี้ได้วิพากวิจารณ์บิดเบือนหลายรูปแบบประสานงานทั้งภายในและนอกประเทศ โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวคำหมิ่นเหม่ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหลายครั้งทั้งนี้ยังให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติถ้อยคำรุนแรงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์หลายครั้งจนสื่อไทยไม่กล้าแปล หากมาอาศัยการเลือกตั้งใช้สิทธิของประชาชนมาลบล้างความผิด แปลว่าคำพิพากษาภายใต้พระปรมาภิไทยถูกลบล้างไปหมดแล้วและความยุติธรรมจะเหลืออะไร เช่น การเผาศูนย์การค้า เผาศาลากลาง โดยเฉพาะคำพูดยั่วยุของใคร ที่บอกว่า”น้ำมันล้านขวดล้านลิตรจะทำให้กรุงเทพเป็นทะเลเพลิง”และ จำได้ไหม “กระสุน….”วลีตรงนี้ใครพูด ใครพาพวกบุกล้มเวทีอาเซียนที่พัทยา ใครพาบุกโรงพยาบาลจุฬาฯจนสมเด็จพระสังฆราชต้องย้ายด่วน ใครพาคนไล่ล่านายกรัฐมนตรี ใครพาคนนำเลือดหมื่นลิตรมาเทลาดกรุงเทพ มาวันนี้จะเดิมพันด้วยคะแนนเสียงของประชาชนในวันที่ 3 ก.ค.
“กลุ่มสยามสามัคคี ขอเรียกร้อง 3 ประการให้ช่วยกันปกป้อง สถาบันพระมหากษัตริย์ จากคนที่ทำลายล้างหลักยึดเหนี่ยวศูนย์ร่วมใจของคนไทยช้านานและทรงทำภารกิจมากมายต่อประชาชนเหนือประเทศอื่น ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร แต่อำนาจตุลาการจะต้องไม่ถูกแทรกแซงด้วยการออกกฎหมาย นิรโทษกรรมให้กับคนเดียว หากเป็นเช่นนี้ประเทศชาติจะพบภัยพิบัติ ดังนั้น 3 ก.ค.จะกำหนดชะตาอนาคตประเทศจะสันติหรือรุนแรง ขึ้นกับการตัดสินใจของประชาชนทุกคน ไม่ว่าจะเลือกใคร หรือไม่เลือกใคร ขอให้ไปใช้สิทธิลงคะแนนอย่างพร้อมเพียง ด้วยวิจารณญาณอิสระ นำประเทศสู่สันติอย่างแท้จริง ถ้าประชาชนมาเลือกตั้งกันน้อย 60-70 เปอร์เซ็นต์ จะเกิดวิกฤติอีกครั้งหากคนไทยทุกคนออกมาช่วยกันเลือกคนดีมาบริหารประเทศและไม่เลือกคนไม่ดีในสายเราคือคนเผาบ้านเผาเมือง ไม่เชื่อว่าจะมาสร้างบ้านสร้างเมืองได้”พล.อ.สมเจตน์ กล่าว
นายสมชาย กล่าวว่า การออกมารณรงค์ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่ถ้ามีนิรโทษกรรม จะต้องแจงหลายกรณีว่าเกี่ยวกับคดีอาญา คดีทุจริต คอรรัปชั่น หรือไม่ เราไม่ก้าวล่วงใครจะเข้ามาบริหารประเทศ แต่ต้องการให้ประชาชนออกมาเลือกตั้ง 80-90 เปอร์เซ็นต์ เพื่อป้องกันไม่ให้คนไม่ดีมาปกครองบ้านเมือง ใครเผาบ้านเผาเมือง ใครล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่าไปเลือก
ขณะที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มสยามสามัคคีทำป้ายรณรงค์ว่า 3 กรกฎา ไปเลือกตั้งไม่ให้คนเลวปกครองบ้านเมือง ไม่เลือก..คน..เผาบ้านเผาเมือง ไม่เลือก..พวก..แค้นเคืองสถาบัน ว่า ตนไม่ทราบ
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1157 ครั้ง