อภิสิทธิ์ยันมีนโยบายแก้ปัญหาชาติอย่างเป็นระบบ-ต้านคืนเงิน 4.6 หมื่นล้าน

อภิสิทธิ์ ย้ำแผลเก่า พท. มุ่งนิรโทษกรรม “ทักษิณ” คืนเงิน 4.6 หมื่นลบ.ย้ำหากเลือก ปชป. เดินหน้าแก้คอร์รัปชั่น ที่ยึดบริหารประเทศภายใต้ฟ้าเดียวกัน อยู่ใต้ กฎหมายเท่าเทียมกัน ไม่ใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย

เวลา 19.00 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยหาเสียงท่ามกลางสายฝนว่า พี่น้องประชาชนที่เคารพรักทั้งหลาย ตนอยู่ในการเมืองมา 20 ปีไม่เคยมีครั้งไหนที่เห็นพี่น้องประชาชนมีความมุ่งมั่น แน่วแน่ในการที่จะปักหลักอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์เหมือนครั้งนี้ อยากกราบขอบคุณพี่น้องทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ตนรู้ว่าที่มุ่งมั่นตั้งใจอย่างนี้เพราะต้องการให้วันที่สามกรกฎาคมเพราะต้องการให้ประเทศไทยเดินหน้าอย่างเดียว วันนี้ตนเองปราศรัยไป 10 เวทีทั่วประเทศ แต่ถ้าเทียบกับเสียงที่พี่น้องจะส่งในวันที่ 3 กรกฎาคมเทียบกันไม่ได้ เพราะพี่น้องจะส่งเสียงไปทั่วโลกว่า ไทยพร้อมแล้วที่จะเดินไปข้างหน้า ยืนยันกันหน่อยว่าวันที่ 3กรกฎาคมเราจะไปเลือกตั้ง แม้ฝนจะตก แดดจะออก เราจะไปใช้สิทธิ์ เพื่อเดินหน้าประเทศไทย แล้วจะเดินหน้าประเทศไทย ได้ต้องเลือกเบอร์ 10

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้เขาบอกว่าพี่น้องประชาชนคนไทยสังคมไทยมีความแตกแยกมีความแตกต่างแต่ที่จริงแล้วไม่ใช่หรอก เราคนไทยทุกคนอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันที่วันนี้ตนเองและพี่น้องเราเปียกฝนด้วยกันไม่แตกต่างกันและคนไทยก็มีความต้องการไม่แตกต่างกัน 40 กว่าวันที่เดินทางพบพี่น้องประชาชนทั่วประเทศทราบความทุกข์ร้อนของพี่น้องไม่แตกต่างกัน พี่น้องประชาชนต้องการที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น ต่อสู้กับภาวะของแพง มีชีวิตที่ดีกว่า ชีวิตที่มั่นคง   และใครที่รักประเทศไทยเขาไม่ต้องการเห็นการแบ่งแยก ประชาชน ไม่ต้องการเห็นความรุนแรงอีกต่อไป 2 ปีที่ผ่านมาตนทราบดีปัญหาเหล่านี้คือปัญหาที่เราต้องเผชิญและตนทุ่มเททำงานด้วยความรับรู้ถึงความต้องการและความใฝ่ฝันของพี่น้องประชาชนเราจึงทุ่มเททำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า นโยบายที่พรรคประชาธิปัตย์ทำไปเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ยังไม่พอ ยังต้องเดินหน้าอีกมาก วันที่พี่น้องต้องตัดสินใจระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์จะเดินหน้าอย่างไรเพี่อน้องเห็นผลงานในสองปีที่ผ่านมาด้วยความซื่อสัตย์ อดทน อดกลั่น ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพี่น้องประชาชน ปัญหาอุปสรรค์จะเป็นอย่างไรเราไม่เคยถอย เดินหน้าเพื่อประชาชนอย่างเดียว พรรคเพื่อไทยเขาก็เดินหน้าเหมือนกัน แต่ตนไม่คิดว่าเขาเดินหน้าไปหับพี่น้อง วันนี้เขาอยู่ที่สนามกีฬาราชมังคลา ภาพที่เห็นตนนึกถึงเมือประมาณ 2 ปีก่อน เสื้อแดงทั้งประเทศชุมนุมที่นั่นประกาศชัดวาระสำคัญสุดคือการพา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯกลับบ้าน และยืนยันวาระนี้เขาไม่เปลี่ยนแปลง วันนี้สิ่งที่เขาพยายามจะพูดไม่ว่า เป็นนโยบายอะไรต่างๆ พี่น้องต้องเข้าใจความเป็นจริง ที่เขาขึ้นป้ายทั่วประเทศ แต่ละเรื่อง คนของเขาเองมาบอกว่า มันไม่ได้เป็นอย่างที่ป้ายเขียน โดยเฉพาะที่บอกว่าค่าแรง 300 บาท ซึ่งพี่น้องเข้าใจหมายถึงค่าแรงขั้นต่ำ เขาบอกไม่ใช่ ต้องให้บางคน ต้องผ่านการอบรม สรุปไม่ใช่ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท และที่เขียนว่า 15,000 บาทจบปริญญา เขาบอกแล้วว่า ไม่ได้ให้ทุกคนต้องมีการกลั่นกรอง อบรม กำหนดมาตรฐานสุดท้ายไม่ใช่นโยบายที่บอกทุกคนจบปริญญาจะได้ 15,000 บาท เฉพาะที่บอกจะทำหลังเลือกตั้งยอมรับแล้วทำไม่ได้ ส่วนนโยบายบอกจะแจกคอมพิวเตอร์เด็กทุกคน ตอนออกข่าวหนังสือพิมพ์ เอาคอมพิวเตอร์เครื่องละ 2 หมื่นมาโชว์ แต่ตอนไปดีเบสกับตนเอง บอกไม่ใช่เครื่องละ 2 หมื่น แต่เป็นเครื่องละ 3-4 พันบาท  ไม่ได้แจกทุกคน แต่แจกเฉพาะเด็ก ป.1 เท่านั้น 

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีนโยบายหนึ่งที่เขาไม่เคยเปลี่ยนแปลงนั่นคือ “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” แล้วทักษิณ คิดอะไรละครับ ทักษิณไม่หยุดให้สัมภาษณ์ไม่หยุดพูดไม่หยุดคิด ที่ตนพูดเพราะมีหน้าที่บอกความจริงเพื่อประชาชนจะได้เลือกถูก ตนจะหยุดพูดเมื่อทักษิณ หยุดคิด เพราะทักษิณ ยังให้สัมภาษณ์ว่าจะกลับมาเมืองไทยโดยไม่ติดคุกแล้วถามว่าถ้าลับมาไม่ติดคุกจะไม่มีนิรโทษกรรมล้างความผิดได้อย่างไร ทักษิณจะคิดและพูดต่อไป่ว่าเงิน 4.6 พันล้านรัฐบาลปล้นเขาไป พี่น้องนี่หรือวิสัยทัศน์ นี่หรือเดินหน้าประเทศไทย นี่หรือที่บอกจะทำให้กับพี่น้องประชาชน ถ้าเราต้องเสียเงิน 4.6 พันล้านให้ทักษิณ ชีวิตประชาชนลุกหลานอนาคตจะดีขึ้นหรือไม่ ประเทศไทยจะได้อะไร เงิน 4.6 พันล้านเท่ากับเบี้ยผู้สูงอายุทุกคน 1 ปี และการรักษาฟรีประชาชน 20 ล้านคน และเรียนฟรีเด็กไทยทั้งประเทศ 1 เทอม

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีนายใหญ่ แต่ไม่ได้อยู่ที่ดูไบ นายใหญ่ประชาธิปัตย์คือพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ฉะนั้นวันนี้ประชาธิปัตย์จะเดินหน้าประเทศไทยเพื่อพี่น้องคนไทยทุกคน เราบอกแล้วปาก้องของแพงปัญหาอันดับหนึ่งเราเป็นพรรคการเมืองที่มุ่งมั่นลดภาระพี่น้องประชาชน แม่แต่เรื่องที่คูณทักษิณทำไว้ประชาชนได้ประโยชน์ประชาธิปัตย์ก็เดินหน้าต่อไป นโยบายใดเป็นประโยชน์ให้เริ่มต้นไว้เราทำต่อ เราปรับปรุง ไม่ว่าเป็นเรื่องกองทุนหมู่บ้าน ไฟฟ้าฟรี ที่เราทำให้เป็นนโยบายถาวร เสียดายที่เขาไม่คิดเหมือนเรา เราพยายามเดินหน้าเรื่องการประกันรายได้พรรคเพื่อไทยกลับประเทศยกเลิก

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ทุกนโยบายที่เราทำเราทำเป็นระบบ ไม่มีนโยบายไหนที่เราไม่คำนวณไว้ว่าต้องใช้เงินจำนวนเท่าไร ทุกนโยบายทำได้จริงและทำทันที ทุกเรื่องเรามีคำตอบชัด สิ่งที่พูดพิสูจน์แล้วเราทำได้  ทุกอย่างเดินหน้าต่อปัญหามีต้องแก้ไข แต่ขอให้ความมั่นใจว่า ไม่มีเรื่องที่ไหนที่ตนเองละเลย วันนี้ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เขาอ้างว่า เอกชนสนใจเรื่องคอรัปชั่น เพราะรัฐบาลประชาธิปัตย์คอรัปชั่นมาก ทั้งนี้ทางหอการค้าไทย เคยสำรวจมาแล้วรัฐบาลไหนคอรัปชั่นมากน้อย ซึ่งพบว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์คอรัปชั่นในอับดับท้ายๆ คงไม่ต้องบอกว่ารัฐบาลไหนคอรัปชั่น ที่เอกชนมาทำเรื่องรัฐบาลคอรัปชั่น เพราะประชาธิปัตย์ เชิญให้มาทำ ถือโอกาสนี้ขอบคุณคุณดุสิต ประธานหอการค้า ที่เข้ามาทำเรื่องนี้  ถ้าประชาธิปัตย์กลับมาเป็นรัฐบาล ยืนยันจะเดินหน้าปราบคอรัปชั่นต่อไป

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า การเดินหน้าประเทศไม่ใช่เฉพาะเรื่องนโยบายหรือวิสัยทัศน์ แต่อยู่ที่จิตวิญญาณ อุดมการณ์และแนวทางการทำงานทางการเมือง วันนี้อยากบอกพี่น้องประชาชน หากเราเอาการเมืองที่นิยมความรุนแรง เอาพวกพ้องตัวเองเป็นใหญ่ ประเทศไทยจะเดินหน้าไม่ได้ คนปราศรัยอยู่กับพี่น้องตรงนี้ที่ลานพระรูปกลางสายฝนพูดจากใจ จากสมอง เต็มที่ เต็มเปี่ยม เพราะตนเองเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุด แต่เวทีเพื่อไทยใครล่ะที่ปราศรัยเป็นชั่วโมง ปราศรัยสองครั้ง

“พระเอกตัวจริงคือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ที่ยืนยันจะช่วยคุณทักษิณ กลับบ้าน นิรโทษกรรม เอาเงินคืน 4.6 หมื่นล้าน หากปล่อยแบบนี้บ้านเมืองจะมีแต่ความวุ่นวาย หากคนแบบนี้เป็นใหญ่ในบ้านเมืองนั่นหมายความว่า ต่อไปนี้ถ้าทำผิด ถูกศาลตัดสิน ก็ถูกลบล้างได้ กฎหมายใช้แล้วคนมีอำนาจไม่พอใจเอากฎหมู่มาใช้แทนได้ นั่นหมายความว่า บ้านเมืองจะต้องอยู่ภายใต้ความขัดแย้งตลอดเวลา ป่วยการที่จะพูดนโยบายวิสัยน์ทัศน์ ถ้าลากการเมืองกับไปอยู่กับคุณทักษิณ เป็นไปได้ไหมวันที่ 3 ก.ค.นี้คนไทยจะตัดสินใจให้รางวัลกับคนที่มาทำความแตกแยกให้กับคนในแผ่นดิน พี่น้องยอมไหม พรรคเพื่อไทยเบอร์ 1ประกาศลบล้างนโยบายดีๆ คิดแก้ปัญหาคนๆเดียว แต่ประชาธิปัตย์พูดเรื่องคนใต้ฟ้าเดียวกัน ซึ่งทุกคนต้องอยู่ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเท่าเทียมกัน ฟ้าเดียวกันนี้ ไม่มีใครรวมตัวกันเป็นหมู่เป็นเหล่าเอากฎหมายอยู่ใต้กฎหมู่ หากอยากเดินหน้าประเทศไทยเราไม่มีทางเลือกอื่น ถ้าเราอยากดับไฟประเทศ อยากให้ไทยเป็นที่ยอมรับในโลกสากล เราต้องเอารัฐบาลที่ซื่อสัตย์ ทุ่มเททำงานให้ประชาชนเต็มร้อย คนที่ขออาสามาพาประเทศไทยเดินไปบนเส้นทางความถูกต้องนี้คือตนเองเและพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 10  ตนขอโอกาส 4 ปีที่จะสมานบาดแผลในแผ่นดินทำให้ประเทศไทยมั่นคง ถ้าพร้อม 3 กรกฎาเราจะไปกาเบอร์ 10”