แถลงการณ์ เรื่อง ไม่มอบตัว จากหัวใจ”อริสมันต์ ” ระบุว่า หลังจากที่ได้แถลงการณ์ ถึงว่าที่นายกฯและพี่น้องประชาชนไปแล้ว ผมก็ยังย้ำจุดยืนเดิม จะยังไม่เข้าไปเพื่อมอบตัวใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะผมไม่ได้กระทำความผิด คนที่ฆ่าประชาชนและพยายามฆ่าผม คือคนทำความผิด ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง DSI ต้องดำเนินการ ผมไม่ต้องการกดดันการทำงานของใคร และที่สำคัญขอให้พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ
ตามนโยบายความปรองดองที่เป็นเรื่องสำคัญของประเทศชาติประชาชนต้องดำเนินการก่อน ขอได้โปรดอย่าได้มาเสียสมาธิกับเรื่องของผม (เรื่องของคนใหญ่แค่ไหนก็เล็กกว่าเรื่องของชาติ เรื่องของชาติเล็กแค่ไหนก็ใหญ่กว่าเรื่องของคน) ผมสู้อยู่ข้างนอกอยู่กับมวลชนเป็นล้าน ๆ คนทั่วโลก อบอุ่นมีความสุข ผมอยู่ได้ หากจะต้องรอเพื่อชัยชนะที่แท้จริงของประชาชน จะนานแค่ไหนก็ต้องทำได้ ความปรองดองของชนในชาติสำคัญมากกว่าการกลับบ้านของผม ผมต้องการเห็นความยุติธรรมที่มีมาตรฐานเดียว ต้องการเห็นทุกคนมีอิสระภาพ ต้องการเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของพี่น้องอย่างมีความสุข ซึ่งผมไม่ได้เห็นมาหลายปี สำหรับ DSI ขอขอบคุณมากไม่ต้องรีบร้อนให้ผมกลับไปมอบตัว ผมจะกลับไปพร้อมกับการเข้าสู้กระบวนการยุติธรรมของกลุ่มฆาตกรที่สังหารหมู่ประชาชน ซึ่งอาจจะรวมนายธาริต เพ็งดิษฐ์ด้วย
สำหรับพี่น้องประชาชนผมต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่เป็นห่วง ตั้งใจดี ต้องการให้ผมได้กลับไปอยู่กับครอบครัว ถึงเวลาที่ผมควรจะได้มีความสุข ผมขอบอกจากใจจริง หากจะมีความสุขบนความทุกข์ของเพื่อนวีรชนนั้นจะสุขได้อย่างไร รัฐบาลทรราชฆ่าพวกเขาอย่างโหดเหี้ยมยังยัดเยียดข้อหาผู้ก่อการร้ายและอื่น ๆ มากมาย ครอบครัวพวกเขาเดือดร้อนลำบาก รัฐบาลที่ผ่านมาไม่เคยวล ไม่มีความเป็นธรรม ไร้เมตตาธรรม ไร้คุณธรรม ผมหวังว่ารัฐบาลนี้จะไม่ลืมสัญญาประชาคมที่เคยให้ไว้ว่าจะไม่ทอดทิ้งวีรชนผู้เสียชีวิตผู้พิการผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
นายอริสมันต์ กล่าวว่า จากการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย แผลที่อยู่ในใจมันบาดลึกยังไม่หาย ผมจะขอให้ท่านอดีตนายกฯทักษิณเป็นเจ้าภาพและผมจะเป็นผู้ดำเนินการ ผมจะเรียกร้องรัฐบาลของประชาชนใหัช่วยเหลืออย่างเต็มที่โดยไม่มีข้อแม้ จะทำอย่างเป็นระบบเรียบร้อยโปร่งใสและทั่วถึง หากรัฐบาลดำเนินการล่าช้า ผมจะหาทางช่วยในด้านอื่นต่อไป ผู้จัดของการผมแนะนำว่าให้เสนอขายงาน หรือกลับไปแสดงคอนเสิร์ตอีกครั้งหนึ่งโดยให้ อาร์ เอส เป็นผู้ดำเนินการ น่าจะเป็นทางออกที่ดีเร็วที่สุดที่สามารถทำได้ ขึ้นอยู่ว่าผมไหวหรือไม่ ถ้าผมไหวทางบริษัทจัดการให้ได้ ซึ่งเป็นทางออกเดียว เพราะฉนั้นการกลับไปของผมจะกำหนดด้วยภาระกิจเป็นสำคัญ ทุกคนที่ร่วมขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจะต้องพ้นทุกข์ คือความสุขที่ยิ่งใหญ่ในใจผมและคนที่สังหารหมู่ประชาชนจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ด้วยความเคารพรักอย่างสูง
อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1105 ครั้ง