“ยิ่งลักษณ์” ปฏิเสธตั้งทักษิณเป็นทูตการค้า ระบุแค่ให้คำแนะนำเรื่องน่าสนใจ ตั้งเริ่มวุ่นวาย นปช.ยันต้องได้ตำแหน่ง ส่งตู่-เต้น นั่งมหาดไทย-ประจำสำนัก ทวงบุญคุณเพือไทยชนะเพราะเสื้อแดง ตั้งรมว.ต่างประเทศต้องเอาใจกัมพูชา ส่ง”ยงยุทธ” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 ชู “วิชัยดิษฐ” ล้ม “เทือกสุบรรณ” วางแผนยึดภาคใต้ หลังมีข่าวสะพัดว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยเตรียมตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุกในคดีทุจริตการซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก และถือสัญชาติมอนเตเนโกรเป็นทูตการค้า ซึ่งสามารถเดินทางไปได้ทั่วโลกนั้น คนในพรรคเพื่อไทยต่างออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวกันพัลวัน
นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี ปฎิเสธว่า ไม่จริง ไม่มีแนวคิดนี้ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ต่างประเทศก็สบายดี ไม่ได้หวังตำแหน่งใดๆ อย่างเดียวที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการคืออยากให้ประเทศเกิดความปรองดอง
ว่าที่นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่มีการตั้ง ครม. จากนี้ขอทำในส่วนของนโยบายที่จะต้องบริหารงานให้กับประชาชนเป็นหลักก่อน เช่นเรื่องของกองทุนน้ำมันที่เราจะไม่มีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน และระบบเศรษฐกิจต่างๆ เมื่อมีนโยบายแล้วถึงจะรู้ว่าใครจะมาบริหารตรงไหนอย่างไร
“ท่านทักษิณไม่ได้มีบทบาทหรือตำแหน่งอะไร ท่านอยู่ต่างประเทศและคอยให้กำลังใจเท่านั้น หรือหากมีเรื่องอะไรที่น่าสนใจก็จะให้คำแนะนำ ท่านก็จะไม่ได้มีส่วนในการบริหารใดๆ เพราะจะต้องมีคณะรัฐมนตรีที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในการบริหารงานบ้านเมือง ซึ่งตอนนี้ขอทำเรื่องนโยบายที่จะต้องนำมาปฏิบัติเมื่อเป็นรัฐบาลก่อน อะไรบ้างที่เป็นเรื่องเร่งด่วน จะต้องเตรียมทำอะไรอย่างไรบ้าง”
สำหรับหน้าตา ครม.ใหม่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์เผยว่า จะชัดเจนก็ต่อเมื่อมีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีการล็อก 10 กระทรวงสำคัญเอาไว้ดูแลเองอย่างที่เป็นข่าว การตั้งครม.เป็นเรื่องยากหากเรามองตัวบุคคลเป็นสำคัญ แต่หากมองเรื่องขอบเขตในการทำงานนั้น ก็คงพิจารณาไม่ยากนัก บุคคลที่จะเข้ามาทำงานต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและมีคุณสมบัติเข้ากับงานนั้นๆ ในส่วน รมว.คลังนั้น เป็นกระทรวงที่เราต้องพิจารณาคนในพรรคก่อน แต่ก็ไม่ปิดโอกาสสำหรับคนนอก รวมถึงตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ ก็จะต้องเป็นบุคคลที่สามารถพูดคุยกับข้าราชการได้ ประสานงานทำงานพูดคุยเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ โดยเฉพาะกัมพูชา รวมทั้งตำแหน่ง รมว.กลาโหม ก็ควรจะเป็นคนที่คุยประสานกับกองทัพรู้เรื่อง
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ประชุมร่วมกับทีมงานด้านเศรษฐกิจของพรรค อาทิ นายโอฬาร ไชยประวัติ, นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์, นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช, นายพิชัย นริพทะพันธุ์, นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล, นายสันติ พร้อมพัฒน์, นายปลอดประสพ สุรัสวดี, นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล และเปิดให้สื่อมวลชนขึ้นไปสังเกตการณ์
โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ฉายสไลด์นโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการทันทีหลังจากแถลงนโยบายต่อสภาให้ทีมเศรษฐกิจและสื่อมวลชนดู พร้อมกล่าวว่า อยากให้ทุกคนผลักดันนโยบาย เรื่องเร่งด่วนที่อยากให้ดำเนินการทันทีหลังแถลงนโยบายต่อสภาคือ ยกเว้นการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน โดยราคาน้ำเบนซิน 95 จะยกเลิกการเก็บเงินอุดหนุนเข้ากองทุนน้ำมันลง 7.50 บาทต่อลิตร เบนซิน 91ลด 6.70 บาท ดีเซล 2.20 บาท
สำหรับการจัดตั้ง ครม. ยังคงมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ ในพรรคเพื่อไทยอย่างคึกคัก ล่าสุดกลุ่มอีสานได้ออกเคลื่อนไหวอย่างหนักในการกดดันขอโควตารัฐมนตรีอย่างน้อย 10 ตำแหน่งด้วยกัน
โดยนายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ ว่าที่ ส.ส.อุดรธานี กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ชัยชนะของพรรคเพื่อไทย ภาคอีสานถือว่ามีส่วนสำคัญ เพราะได้ ส.ส.มา 104 ที่นั่ง อย่างอุดรธานี มีชัยชนะยกจังหวัดได้ ส.ส.มา 9 คน ดังนั้นภาคอีสานก็ควรมีโควตา รมต.อย่างน้อย 10 ตำแหน่ง ไม่ควรน้อยกว่านี้
เขาบอกว่า นายวิเชียร ขาวขำ อดีต ส.ส.อุดรธานี หลายสมัย แกนนำคนเสื้อแดง เพราะมีความอาวุโสมากที่สุด เป็นอดีต ส.ส.หลายสมัย ที่อุดรธานีคงต้องมีอย่างน้อย 1 เก้าอี้ อย่างเลือกตั้งครั้งที่แล้วสมัยพรรคพลังประชาชน อุดรธานีก็ได้รับชัยชนะยกจังหวัดเช่นกัน และนายธีระชัย แสนแก้ว ก็ยังได้เป็น รมช.เกษตรฯ มารอบนี้ก็ควรเป็นอย่างนั้น
นายเกียรติอุดมระบุว่า ชัยชนะของอุดรธานี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ไม่มีส่วนสำคัญมาก ทั้งที่อุดรธานีและหลายจังหวัดในอีสาน คิดว่าร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ยังช่วยพรรคมากกว่า ทั้งการวางแผนเลือกตั้ง การปราศรัยหาเสียงเกือบทุกจังหวัด สำหรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เท่าที่ดูแล้วนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ หัวหน้าทีมขอนแก่น ก็เหมาะสมที่สุด เพราะมีประสบการณ์
ด้านว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ว่าที่ ส.ส.หนองคาย ในฐานะหัวหน้าทีมหนองคาย-บึงกาฬ กล่าวว่า อยากฝากไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ควรให้ตำแหน่งรัฐมนตรีกับภาคอีสานมากหน่อย เพราะเรามี ส.ส.มากที่สุด โดยกระจายไปยังโซนตัวจังหวัดอย่างทั่วถึง
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า คนเสื้อแดงไม่เคยเรียกร้องหรือตั้งเงื่อนไข ส่วนตนก็ทำภารกิจให้กับพรรคในการหาเสียงเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว จากนี้ถ้ามีภารกิจอื่นก็พร้อมจะทำให้กับพรรค แต่ถ้าไม่มีก็แล้วแต่พรรคจะพิจารณา
ถามว่า หากคนเสื้อแดงเป็นรัฐมนตรี จะกลายเป็นสายล่อฟ้าในรัฐบาล แกนนำคนเสื้อแดงตอบว่า ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาพรรคไหนก็มีสายล่อฟ้ากันทั้งนั้น แม้แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่ไหนก็ยังมีคนต่อต้าน ที่ผ่านมาพวกตนไม่เคยพูดเลยเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยืนยันว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ควรต้องได้ตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะทั้งสองเป็นกำลังหลักในการต่อสู้ของเสื้อแดง โดยเฉพาะนายณัฐวุฒิ ได้เดินสายช่วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดังนั้นทั้ง 2 คนควรได้รับรางวัลตอบแทนบ้าง
“คุณณัฐวุฒิควรจะเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ คุมสื่อ เพราะเคยทำงานเรื่องสื่อมาก่อน ตรงกับความสามารถ ส่วนคุณจตุพรชำนาญเรื่องการเมือง ก็เป็น รมช.มหาดไทย”
“พรรคเพื่อไทยอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ และได้ชัยชนะแลนด์สไลด์ ก็เพราะกระแสของเสื้อแดง แล้วทำไมถึงมารังเกียจคนเสื้อแดง ทำเหมือนเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง ขอบอกว่าเสื้อแดงไม่ใช่คนชั่ว ดังนั้นอย่ามาตั้งแง่ ซึ่งถ้าแกนนำเสื้อแดงทั้ง 2 คนได้เป็นรัฐมนตรีแล้วทำงานไม่ดีมีปัญหาก็ค่อยมาปลดออก นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ จากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย สุดท้ายก็ได้เป็นรัฐมนตรี ช่วงแรกคนก็โวยวาย สุดท้ายคนก็ยอมรับ เพียงแต่มาเสียเพราะบริหารนโยบายจนสร้างความขัดแย้งกับประเทศกัมพูชา พวกเราคนเสื้อแดงเป็นนักต่อสู้ นักรบ ไม่ใช่นักเชลียร์หรือนักวิ่งเต้น แรงต้านในพรรคมีมาก เพราะเขากลัวเราไปตัดโควตารัฐมนตรีจนเหลือน้อย มันเลยเหยียบตีนกันเอง” นายก่อแก้วกล่าว
มีรายงานว่า โผ ครม.ยังไม่นิ่ง แต่มีแกนนำพรรคบางส่วนที่ต้องการผลักดันให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค เป็น รมว.มหาดไทย เป็นยุทธศาสตร์ที่จะเข้าไปเจาะฐานเสียงภาคใต้ที่เป็นจุดอ่อนของพรรคมาตลอด ซึ่งตระกูลวิชัยดิษฐเป็นตระกูลใหญ่ใน จ.สุราษฎร์ธานีพอๆ กับตระกูลเทือกสุบรรณ จึงต้องการให้สร้างฐานในภาคใต้ จึงอาจจะให้นายยงยุทธเป็นรองนายกฯ อันดับ 1 ควบ รมว.มหาดไทย เพื่อทำให้คนใต้เห็นว่าเพื่อไทยให้ความสำคัญกับภาคนี้
นายเสนาะ เทียนทอง ว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า “ตอนนี้ถือว่าผลเลือกตั้งยังไม่ได้ประกาศเลย แต่ผมกำลังพิจารณาว่ามีความจำเป็นที่ผมจะมานั่งรัฐมนตรีหรือเปล่า เพราะผมขอละวางตัวเอง แต่ยังไม่ละวางความรับผิดชอบ”
เมื่อถามว่า แกนนำเสื้อแดงเหมาะสมจะขึ้นเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ นายเสนาะกล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วย และคนเสื้อแดงก็ไม่ปรารถนาจะเข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญๆ เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ เรื่องการตัดสินใจเป็นหน้าที่ว่าที่นายกฯ และหน้าที่ผู้ใหญ่ การเลือกตั้งครั้งนี้ใช่ว่าพรรคเพื่อไทยจะเอาเสื้อแดงมาเป็นเครื่องมือ
“ผมคุยกับคนระดับสูง คุยกับเสื้อแดงแล้ว และแกนนำแดงก็ยืนยันว่าจะไม่มาเป็นรัฐมนตรี เพราะรู้ตัวว่าจะมีปัญหา” นายเสนาะกล่าว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1330 ครั้ง