หลักฐานชัด นปช.เผาเซ็นทรัลทรัลเวิร์ล อัยการนำ จนท.ประจำห้องวงจรปิดCCTV สืบโจทก์ฟ้องยันมีชายฉกรรจ์10-20ร่วมก่อเหตุ
ที่ห้องพิจารณา 501 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 วันที่ 12 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ศาลนัดสืบพยานโจทก์ คดีหมายเลขดำ ด.2478/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสายชล แพบัว อายุ 29 ปี ชาว จ. ชัยนาท การ์ดแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) และนายพินิจ จันทร์ณรงค์ อายุ 27 ปี เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ โรงเรือนที่เก็บสินค้า จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากกรณีเหตุเพลิงไหม้ อาคารเซ็นทาวเวอร์และอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ตั้งอยู่แยกราชประสงค์
ภาพเหตุการณ์เผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553
ทั้งนี้อัยการได้นำเจ้าหน้าที่ประจำห้องปฏิบัติการกล้องวงจรปิด CCTV ซึ่งอยู่ชั้นใต้ดิน ของ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เบิกความเป็นพยาน พร้อมกับนำพยานวัตถุ ซึ่งเป็นภาพที่บันทึกได้จากกล้อง CCTV รวม 6 จุดภายในอาคาร มานำสืบประกอบด้วย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำห้อง CCTV ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับภาพที่ปรากฏในกล้อง CCTV ระบุว่าจะมีชายฉกรรจ์ที่มีผ้าปิดบังใบหน้า ประมาณ 10-20 คน ซึ่งบางคนมีผ้าพันคอสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ด้วย เข้ามาอยู่ภายในอาคาร และพยายามที่จะหาเชื้อเพลิง มาวางเพลิง โดยช่วงเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พยายามที่จะเจรจาด้วยแต่ไม่เป็นผลจนเกิดเพลิงไหม้ครั้งแรกซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง พยายามเข้าระงับเหตุแล้ว แต่กลุ่มชายฉกรรจ์พยายามวางเพลิงอีกรอบสอง โดยเมื่อเหตุเริ่มลุกลามขึ้นพนักงานทั้งหมดต่างลงมาที่ลานจอดรถชั้น 1 ของอาคาร
อย่างไรก็ดีเมื่อเสร็จสิ้นการเบิกความของพยานปากนี้แล้ว ศาลได้นัดสืบพยานปากต่อไปอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2553 ระบุว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 เวลากลางวัน จำเลยทั้งสองกับพวก ร่วมกันชุมนุมและมั่วสุมกันบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ในช่วงที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง โดยพวกจำเลยได้เข้าไปในบริเวณอาคารห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แล้วใช้กำลังทำลายบานกระจกผนังอาคาร บานกระจกประตู อาคารเซ็นทาวเวอร์ อาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณห้างสรรพสินค้าดังกล่าวจนแตกเสียหายและยังเป็นการกีดขวางการจราจร ขัดขวางต่อการประกอบกิจการของห้าง ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเสียหายและเกรงกลัวอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน
นอกจากนี้ จำเลยทั้งสองกับพวก ยังได้ร่วมกันเข้าไปภายในบริเวณอาคารเซ็นทาวเวอร์และอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นทรัพย์โรงเรือนอันเป็นที่เก็บสินค้าของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แล้วพวกจำเลยได้ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์จนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ เผาอาคารเซ็นทาวเวอร์และไฟไหม้เผาทรัพย์สินต่างๆของผู้เสียหายที่ 1 ถึงผู้เสียหายที่ 270 รวมค่าเสียหายจำนวน 8,890,578,649.61 บาท และยังเป็นเหตุให้นายกิติพงษ์หรือกิตติพงษ์ สมสุขที่อยู่ภายในอาคารดังกล่าวถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่แขวง- เขตปทุมวัน กทม
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1282 ครั้ง